จีนจำเป็นต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ 7.14 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นในจีนทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลงตามไปด้วย โดยปัญหายังคงเกิดจากสภาวะอุปสงค์ที่อ่อนตัวในประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลจีนยังคงเน้นย้ำถึงความสำคัญเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ โดยมีการปรับนโยบายการคลังและการเงินเพื่อส่งเสริมการเติบโตในระยะยาว
ราคาบ้านใหม่ของจีนลดลง 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน การเกิดปัญหาฟองสบู่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนยังคงเป็นจุดที่มีความเปราะบางมากที่สุด เนื่องจากอุปสงค์ยังคงอ่อนตัวแม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหลายชุดเพื่อกระตุ้นอุปสงค์แล้วก็ตาม ราคาลดลงมากที่สุดในในเซินเจิ้นที่ 3.1%
อัตราการว่างงานของจีนยังคงทรงตัวต่ำสุดอยู่ที่ 5% ในเดือนพฤศจิกายน โดยทางรัฐบาลจีนได้คาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 5.5% ในปีนี้ นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างตำแหน่งงานใหม่ประมาณ 12 ล้านตำแหน่งหลังจากมีมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ยอดค้าปลีกของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็วที่ 10.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน โดยได้แรงหนุนจากการเร่งตัวของยอดขายเสื้อผ้าที่เพิ่มขึ้นมากถึง 22% เนื่องจากเริ่มเข้าสูงช่วงฤดูหนาวของจีน และได้รับแรงหนุนจากการขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นจากการผลักดันพลังงานสะอาดของรถยนต์ EV
การผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนสูงขึ้น 6.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นการเติบโตที่รวดเร็วที่สุดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตและสาธารณูปโภค ที่มีการเติบโตมากกว่า 7% เมื่อแยกตามอุตสาหกรรมพบว่า การผลิตเครื่องจักรที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10.6% และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เพิ่มขึ้น 10.6%
ธนาคารกลางจีนได้ขยายสินเชื่อใหม่จำนวน 1.09 ล้านล้านหยวนในเดือนพฤศจิกายน โดยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 0.74 ล้านล้านหยวนมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา เพื่อหนุนความเชื่อมั่นของภาคครัวเรือนและอุปสงค์ในประเทศหลังจากมีที่ซบเซาลงจากปัญหาด้านการเติบโต โดยสินเชื่อภาคครัวเรือนรวมถึงการจำนองเพิ่มขึ้นเป็น 292.5 พันล้านหยวน ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็น 822.1 พันล้านหยวน นอกจากนี้ นายผาน กงเฉิง ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางของจีนให้คำมั่นว่าจะคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อช่วยฟื้นตัวของจีน โดย PBoC ได้ลด Reserve Requirement Ratio (RRR) เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ และนักวิเคราะห์เชื่อว่าจะปรับลดอีกครั้งในอนาคตอันใกล้นี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.1457, 7.1492, 7.1511
แนวรับสำคัญ: 7.1403, 7.1384, 7.1349
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 19 ธันวาคม 2566 18:12 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.1349 | 7.1384 | 7.1403 | 7.1438 | 7.1457 | 7.1492 | 7.1511 |
Fibonacci | 7.1384 | 7.1405 | 7.1417 | 7.1438 | 7.1459 | 7.1471 | 7.1492 |
Camarilla | 7.1408 | 7.1413 | 7.1418 | 7.1438 | 7.1428 | 7.1433 | 7.1438 |
Woodie's | 7.1343 | 7.1381 | 7.1397 | 7.1435 | 7.1451 | 7.1489 | 7.1505 |
DeMark's | - | - | 7.1394 | 7.1433 | 7.1448 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1457 - 7.1492 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1511 และ SL ที่ประมาณ 7.1384 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1457 - 7.1492 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.1457 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1384 และ SL ที่ประมาณ 7.1511 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.1384 - 7.1403 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1349 และ SL ที่ประมาณ 7.1492 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 19 ธันวาคม 2566 18:12 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 49.501 | ถือหุ้นไว้ |
STOCH(9,6) | 80.096 | ซื้อมากเกินไป |
STOCHRSI(14) | 97.753 | ซื้อมากเกินไป |
MACD(12,26) | -0.004 | ขาย |
ADX(14) | 40.079 | ซื้อ |
Williams %R | -11.088 | ซื้อมากเกินไป |
CCI(14) | 97.8573 | ซื้อ |
ATR(14) | 0.0092 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.0111 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 60.487 | ซื้อ |
ROC | 0.118 | ซื้อ |
Bull/Bear Power(13) | 0.0084 | ซื้อ |
ซื้อ:6 ขาย:1 ถือหุ้นไว้:1 สรุป:ซื้อทันที |