ราคาถั่วเหลืองตอบสนองต่อสภาพอากาศในอเมริกาใต้
เมื่อวันอังคาร ราคาถั่วเหลืองลดลง โดยได้รับอิทธิพลจากการพยากรณ์อากาศในอเมริกาใต้ ส่งผลให้ตลาดตอบสนองต่อการคาดการณ์ถึงปริมาณน้ำฝนที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกในภาคกลางและภาคเหนือของบราซิล และส่งสัญญาณถึงการกลับเข้าสู่ฤดูฝนตามปกติมากขึ้นในเดือนมกราคม โดยแม้ว่าบราซิลอาจไม่มีโอกาสเก็บเกี่ยวพืชผลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้ แต่ก็คาดว่าการเก็บเกี่ยวโดยรวมจะยังคงดีกว่าค่าเฉลี่ย ประกอบกับการคาดการณ์ถึงการเพาะปลูกพืชผลในอาร์เจนตินาที่คาดว่าจะเป็นไปได้ด้วยดี ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นสำหรับถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ขณะที่ยอดขายส่งออกขณะนี้ยังคงต่ำกว่าคาดการณ์ ท่ามกลางราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง โดยนักลงทุนยังคงติดตามถึงแนวโน้มภาษีผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นสองเปอร์เซ็นต์ของอาร์เจนตินา
ทางด้านผลผลิตเมล็ดพันธุ์น้ำมันของสหรัฐฯ ทั้งหมดในปี 2023/24 คาดว่าจะอยู่ที่ 121.5 ล้านตัน ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากผลผลิตเมล็ดฝ้ายที่ลดลง ขณะที่การคาดการณ์อุปทานและการใช้ถั่วเหลืองยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดการณ์ราคาถั่วเหลืองเฉลี่ยตามฤดูกาลที่ 12.90 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ในขณะเดียวกัน ผลผลิตเมล็ดพันธุ์น้ำมันทั่วโลกในปี 2023/24 คาดว่าจะอยู่ที่ 661.0 ล้านตัน ลดลง 0.5 ล้านตันจากเดือนก่อน โดยผลผลิตถั่วเหลืองและเมล็ดทานตะวันลดลงส่วนหนึ่งถูกชดเชยด้วยผลผลิตเรพซีดที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลลดลงเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้ง ท่ามกลางผลผลิตที่สูงขึ้นในแคนาดาและรัสเซีย
ทั้งนี้ บราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยการส่งออกถั่วเหลืองมากกว่า 100 ล้านเมตริกตันภายในหนึ่งปี โดยได้แรงหนุนจากการเก็บเกี่ยวที่สูงเป็นประวัติการณ์และราคาขายระหว่างประเทศที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จดังกล่าวก็ต้องแลกมาด้วยการกำหนดราคาที่ต่ำลงสำหรับเกษตรกรชาวบราซิล ในขณะที่ผู้นำเข้า รวมถึงจีน ใช้ประโยชน์จากราคาที่ต่ำนี้ เพื่อสะสมสต็อกมากกว่าการบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกัน การซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นผลมาจากราคาที่ลดลงของสหรัฐฯ และความคาดหวังของผลผลิตในบราซิลที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้น้อยลง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
อย่างไรก็ดี ตลาดภายนอกยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดธัญพืช โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ผลกระทบของบราซิลต่อข้าวโพดและถั่วเหลือง และความต้องการข้าวสาลีที่ลดลงเนื่องจากอิทธิพลของรัสเซีย ในขณะที่ความสามารถของบราซิลในการเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก ได้สร้างความท้าทายต่อสหรัฐฯ เนื่องจากบราซิลได้ตั้งเป้าหมายที่จะรักษาสถานะผู้ส่งออกรายใหญ่ ท่ามกลางการทำลายป่าอเมซอนเพื่อการขยายพื้นที่เพาะปลูกที่ถือเป็นข้อกังวลสำคัญในอนุสัญญาว่าด้วยสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศ
ในตลาดสัญญาถั่วเหลืองล่วงหน้า ราคาปรับตัวลดลงเมื่อวันอังคารเนื่องจากสภาพอากาศที่ดีขึ้นในบราซิล อย่างไรก็ตาม ความต้องการสินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากจีน ได้ส่งผลให้แนวโน้มขาลงถูกจำกัด ขณะที่นักลงทุนกำลังติดตามพยากรณ์อากาศของอเมริกาใต้อย่างใกล้ชิด หลังจากที่ปริมาณฝนที่ตกเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลดีต่อพืชผลทางตอนเหนือของบราซิล ในขณะเดียวกัน พายุฤดูร้อนที่รุนแรงในอาร์เจนตินาได้ส่งผลดีต่อพื้นที่เพาะปลูกที่ขาดแคลนน้ำ แต่ก็ส่งผลให้การปฏิบัติงานที่ท่าเรือลำเลียงธัญพืชสำคัญต้องหยุดชะงักชั่วคราว
ในตลาดซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าของ Chicago Board of Trade (CBOT) ราคามีความผันผวนและได้รับอิทธิพลจากสภาพอากาศในอเมริกาใต้ นักวิเคราะห์แนะนำช่วงการซื้อขายที่เป็นไปได้ระหว่างแนวรับที่ $1300.00 และแนวต้านที่ $1335.00
ทั้งนี้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงของราคาถั่วเหลือง โดยคาดว่าจะมีการลดลงอีกหากราคายังคงต่ำกว่า 1330.00 ดอลลาร์ ขณะที่หน่วยงานบริการการเกษตรต่างประเทศของ USDA รายงานยอดขายถั่วเหลืองสหรัฐฯ อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นยอดขายติดต่อกันวันที่ 9 ในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมา โดยปริมาณถั่วเหลืองที่จำกัดและความต้องการเชื้อเพลิงหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้มีพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นในปีหน้า
สุดท้ายนี้ แม้ว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นในบางส่วนของอเมริกาใต้ แต่ปัจจัยต่างๆ เช่น การนำเข้าข้าวโพดของจีนที่สูงเป็นประวัติการณ์ แผนการขึ้นภาษีส่งออกของอาร์เจนตินา และความต้องการการส่งออกที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ ล้วนส่งผลต่อความซับซ้อนของตลาดถั่วเหลืองได้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Soybeans Futures - Jan 24 (ZSF4)
แนวต้านสำคัญ : 1319.54, 1321.2, 1323.87
แนวรับสำคัญ : 1314.2, 1312.54, 1309.87
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1309.2 - 1314.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1314.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1321.12 และ SL ที่ประมาณ 1307.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1319.54 - 1324.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1329.00 และ SL ที่ประมาณ 1312.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1319.54 - 1324.54 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1319.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1314.12 และ SL ที่ประมาณ 1327.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1309.2 - 1314.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1307.10 และ SL ที่ประมาณ 1322.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Dec 20, 2023 03:24PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1307.12 | 1309.87 | 1314.12 | 1316.87 | 1321.12 | 1323.87 | 1328.12 |
Fibonacci | 1309.87 | 1312.54 | 1314.2 | 1316.87 | 1319.54 | 1321.2 | 1323.87 |
Camarilla | 1316.46 | 1317.1 | 1317.74 | 1316.87 | 1319.02 | 1319.66 | 1320.31 |
Woodie's | 1307.88 | 1310.25 | 1314.88 | 1317.25 | 1321.88 | 1324.25 | 1328.88 |
DeMark's | - | - | 1315.5 | 1317.56 | 1322.5 | - | - |
Sources: Hellenic Shipping News, XM