บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 21 ธันวาคม 2566

Create at 11 months ago (Dec 21, 2023 10:16)

BOJ คงนโยบายผ่อนคลาย รัฐบาลญี่ปุ่นจับตาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางการลดงบการคลัง

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจที่จะคงนโยบายแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยธนาคารกลางเลือกที่จะรอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าจ้างและราคาก่อนที่จะพิจารณาการเปลี่ยนแปลงและออกจากมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ ซึ่งถึงแม้จะมีสัญญาณของการเคลื่อนไหวเชิงบวกในด้านค่าจ้างและราคา แต่ผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อุเอดะเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการตรวจสอบอย่างรอบคอบเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง

การตัดสินใจของ BOJ ที่จะรักษาแนวนโยบายแบบผ่อนคลายไว้ ได้สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนบางรายที่คาดหวังว่าจะมีการส่งสัญญาณถึงการยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบในระยะสั้น ขณะที่ผู้ว่าการอุเอดะรับทราบถึงความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ สู่เป้าหมาย 2% แต่ยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการประเมินวงจรค่าจ้างและเงินเฟ้อเชิงบวกที่อาจเกิดขึ้น

ทั้งนี้ เงินเยนอ่อนค่าลง และตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการตัดสินใจของ BOJ ที่จะคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ ในขณะที่ญี่ปุ่น ซึ่งประสบกับอัตราเงินเฟ้อสูงกว่า 2% มานานกว่าหนึ่งปี พบบริษัทต่างๆ แสดงความพร้อมที่จะขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับการละทิ้งจุดยืนทางนโยบายของ BOJ เมื่อเทียบกับธนาคารกลางอื่นๆ ทั่วโลก ในท้ายที่สุด

ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มากกว่า 80% ที่สำรวจโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ในเดือนพฤศจิกายน คาดว่า BOJ จะยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในปีหน้า ท่ามกลางกำหนดเวลาที่ยังคงไม่แน่นอน ผู้ว่าการอุเอดะยังคงไม่ได้ให้สัญญาณที่ชัดเจนว่า BOJ อาจยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบเมื่อใด โดยระบุว่าจะมีการนำเสนอข้อมูลไม่มากก่อนการประชุมนโยบายครั้งต่อไปในเดือนมกราคม

อีกด้าน รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะเพิ่มประมาณการอัตราดอกเบี้ยระยะยาวสำหรับปีงบประมาณหน้าเป็น 1.9% เพิ่มขึ้นจาก 1.1% ในปีปัจจุบัน โดยการปรับครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี สะท้อนถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และความคาดหวังว่าธนาคารกลางอาจออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษในเร็ววัน ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าจะทำให้ต้นทุนการจัดหาเงินกู้ของรัฐบาลสูงขึ้น

ในทางกลับกัน รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะลดงบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2024-25 หลังจากมีการเพิ่มงบประมาณมาตลอดระยะเวลา 12 ปี โดยการตัดงบประมาณจำนวน 112.1 ล้านล้านเยน ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะจำนวนมากของญี่ปุ่น ซึ่งมากกว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจถึง 2 เท่า ขณะที่รัฐบาลวางแผนที่จะพึ่งพาการเติบโตของรายได้ทางภาษีและการปรับลดการใช้จ่าย โดยลดการออกพันธบัตรใหม่เป็นปีที่สามติดต่อกัน

ทางด้านแนวโน้มเศรษฐกิจ รัฐบาลญี่ปุ่นได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตเล็กน้อยสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน โดยอ้างถึงอุปสงค์ภายนอกที่แข็งแกร่งซึ่งชดเชยการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ การส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน โดยได้รับอิทธิพลจากการจัดส่งชิปไปยังจีนที่ลดลง ซึ่งการส่งออกที่อ่อนแอได้สร้างความกังวลให้กับผู้กำหนดนโยบายที่ต้องพึ่งพาอุปสงค์จากภายนอกเพื่อถ่วงดุลการบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอ ท่ามกลางการหดตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนที่ได้สร้างความกังวลมากขึ้น พร้อมกันกับการใช้จ่ายด้านทุนและการบริโภคที่ลดลง

อย่างไรก็ดี มุมมองของรัฐบาลเกี่ยวกับความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวดีขึ้นในเดือนธันวาคม สะท้อนถึงการฟื้นตัวของมุมมององค์กรในวงกว้าง โดยเฉพาะในด้านผลกำไร ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการประเมินเศรษฐกิจโดยรวม ที่แสดงถึงการหยุดชะงักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลเน้นย้ำการติดตามความเสี่ยงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เช่น ความเข้มงวดทางการเงินและความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจจีน

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พบแนวรับท่ามกลางขาขึ้นที่แข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่หยุดชะงักอย่างกะทันหัน ขณะที่การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ลดลงมากที่สุดในรอบกว่าสองปีในไตรมาสที่ 3 โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในเดือนธันวาคม โดยได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับเงื่อนไขทางธุรกิจและตลาดแรงงาน

ทั้งนี้ ตลาดสกุลเงินจะมุ่งเน้นไปที่การเปิดเผยดัชนีรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (PCE) ของสหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายนและอัตราเงินเฟ้อประจำปีอาจชะลอตัวลง โดยความกังวลเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายที่อาจเกิดขึ้นโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่ ท่ามกลางตลาดตราสารหนี้ที่ปรับตัวขึ้นอย่างมากและดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับตัวลดลง จึงอาจส่งผลให้เงินเยนคาดว่าจะยังคงแนวโน้มอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยอาจพบการปรับตัวขึ้นของเงินเยนได้มากขึ้นตามความคาดหวังของนักลงทุนถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของญี่ปุ่นในปีหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30 Min) CFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 143.03, 143.09, 143.18

แนวรับสำคัญ : 142.85, 142.79, 142.70             

30Min Outlook            

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: Investing.com                                          

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 142.70 – 142.85 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 142.85 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 143.07 และ SL ที่ประมาณ 142.63 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 143.03 – 143.18 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 143.31 และ SL ที่ประมาณ 142.78 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 143.03 – 143.18 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 143.03 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 142.85 และ SL ที่ประมาณ 143.25 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 142.70 – 142.85 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 142.60 และ SL ที่ประมาณ 143.10 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 21, 2023 09:55AM GMT+7

Name S3 S2 S1 Pivot Points R1 R2 R3
Classic 142.59 142.70 142.83 142.94 143.07 143.18 143.31
Fibonacci 142.70 142.79 142.85 142.94 143.03 143.09 143.18
Camarilla 142.90 142.93 142.95 142.94 142.99 143.01 143.04
Woodie's 142.61 142.71 142.85 142.95 143.09 143.19 143.33
DeMark's - - 142.77 142.91 143.01 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES