เกษตรกรรมโลกเผชิญกับความท้าทายและโอกาสในปี 2024

สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดข้าวโพดแผชิญแรงกดดันจากการหยุดชะงักในการส่งออกไปยังเม็กซิโก อันเกิดจากการปิดทางข้ามทางรถไฟชั่วคราวในอีเกิลพาสและเอลปาโซ รัฐเท็กซัส โดยการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ จำนวนมากตกอยู่ในภาวะไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ในวันศุกร์ กรมศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐอเมริกาได้เปิดจุดผ่านแดนทั้งสองแห่งอีกครั้ง เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ค้า ขณะที่อีกปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อตลาดข้าวโพดคือสภาพอากาศในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในบราซิล ซึ่งสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งอาจเป็นภัยคุกคามต่อการเก็บเกี่ยวข้าวโพดครั้งที่สอง แม้จะมีการคาดการณ์ถึงฝนที่อาจตกก็ตาม

แนวโน้มล่าสุดสำหรับตลาดข้าวโพดในสหรัฐฯ ในปี 2023/24 คาดว่าจะมีการส่งออกที่สูงขึ้นและสต็อกคงคลังที่ลดลง โดยการส่งออกคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 25 ล้านบุชเชลเป็น 2.1 พันล้านบุชเชล สะท้อนถึงอัตราการขายและการขนส่งในปัจจุบัน ขณะที่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงในการใช้งานอื่นๆ ของข้าวโพด ส่งผลให้สต็อกคงคลังของข้าวโพดคาดว่าจะลดลง 25 ล้านบุชเชลเหลือ 2.1 พันล้านบุชเชล ท่ามกลางราคาข้าวโพดเฉลี่ยตามฤดูกาลสำหรับผู้ผลิต ที่ยังคงทรงตัวที่ 4.85 ดอลลาร์ต่อบุชเชล

ในขณะเดียวกัน ทั่วโลกคาดว่าผลผลิตเมล็ดพันธุ์พืชหยาบในปี 2023/24 จะเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านตันเป็น 1,502.0 ล้านตัน โดยแนวโน้มธัญพืชหยาบในต่างประเทศคาดว่าจะพบผลผลิตเพิ่มขึ้น การค้าที่เพิ่มขึ้น และสต็อกคงคลังที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นในรัสเซีย ยูเครน สหภาพยุโรป และอียิปต์ ชดเชยด้วยผลผลิตที่ลดลงในเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่การส่งออกข้าวโพดจากยูเครน สหรัฐอเมริกา และตุรกีเพิ่มขึ้น โดยพบการนำเข้าจากเม็กซิโกและอิรักที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เนื่องด้วยการใช้พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดที่มากขึ้นและการใช้พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองที่น้อยกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก จึงส่งผลให้พบผลผลิตที่มากขึ้นในตลาดข้าวโพด และคาดว่าจะลดผลกระทบต่อความผันผวนของตลาดข้าวโพดมากขึ้นจากอุปทานที่สูงขึ้น ขณะที่การดำเนินการและการตัดสินใจของจีนยังคงความสำคัญ เนื่องจากรูปแบบการเข้าซื้อและการสร้างสินค้าคงคลังของจีนได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง

อีกด้าน การตัดสินใจของประธานาธิบดีอาร์เจนตินาคนใหม่ Javier Milei ในการเพิ่มภาษีส่งออกสำหรับน้ำมันถั่วเหลือง กากข้าวโพด และข้าวสาลี ได้สร้างความประหลาดใจ หลังจากการเคลื่อนไหวครั้งนี้ขัดแย้งกับคำมั่นสัญญาก่อนการเลือกตั้งที่จะลดภาษีลง โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีสาเหตุมาจากสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่มั่นคงของประเทศ และความจำเป็นในการชำระเงินกู้จำนวนมากให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งภาษีส่งออกสินค้าเกษตรมีส่วนสำคัญต่อรายได้ของรัฐบาล ในขณะที่การปรับลดภาษี อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเกษตรทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงบทบาทที่สำคัญของอาร์เจนตินาในฐานะผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง ข้าวโพด และข้าวสาลีรายใหญ่ ตลอดจนตำแหน่งในฐานะผู้ผลิตถั่วเหลืองที่มีต้นทุนต่ำ

ในขณะเดียวกัน พืชผลในอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในบราซิล ยังคงเติบโตได้ไม่เต็มที่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาข้าวโพดในฤดูใบไม้ผลิที่จะถึงนี้

ในประเทศจีน มีการเตรียมการปลูกข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม (GM) มากกว่าสองเท่าในปี 2024 เมื่อเทียบกับปี 2023 โดยการปลูกข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนั้นยังคงความสำคัญ และอาจส่งกระทบต่อซัพพลายเออร์ทั่วโลกอย่างจีน ซึ่งเป็นผู้เพาะปลูกข้าวโพดรายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก และมีความพยายามที่จะเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองท่ามกลางความตึงเครียดทั่วโลกที่กำลังเกิดขึ้น

ในขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปเผชิญกับความต้องการข้าวโพดนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากคลื่นความร้อนและความแห้งแล้งที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตในประเทศ โดยยูเครนและบราซิลคาดว่าจะเป็นผู้จัดหาข้าวโพดรายใหญ่ให้กับ EU-27 ในปีการตลาดปี 2024-25 ขณะที่ความตึงเครียดที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรปแบบปลอดภาษีของยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก

สำหรับผู้นำเข้าข้าวโพดในยุโรปและแอฟริกาเหนือ คาดว่าจะพบปริมาณการส่งออกหรือนำเข้าจากยูเครนอย่างต่อเนื่องในปี 2024 แม้จะมีความท้าทายด้านลอจิสติกส์และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานจากรัสเซียเกิดขึ้น แต่การเปิดเส้นทางการส่งออกใหม่และทางเดินทางทะเลผ่านทะเลดำได้อำนวยความสะดวกในการขนส่งผลผลิตทางการเกษตรไปแล้วมากกว่า 5 ล้านเมตริกตัน โดยความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค รวมถึงความขัดแย้งของยูเครนกับประเทศเพื่อนบ้านในสหภาพยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของยูเครนได้

ทางด้านความเสี่ยงด้านสงครามที่เกี่ยวข้องกับเรือปฏิบัติการนอกท่าเรือของยูเครน ได้ทำให้การซื้อขายแบบ FOB (Free On Board) ไม่เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ซื้อ ขณะที่การซื้อขายแบบ CIF (ต้นทุน การประกันภัย และค่าระวาง) ทำกำไรมากขึ้น เน้นถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงของสงครามต่อการเปลี่ยนแปลงทางการค้าและอัตราพรีเมี่ยมสำหรับการส่งออกข้าวโพดจากโรมาเนียและบัลแกเรีย

ทั้งนี้ รายงานล่าสุดจาก CoBank เน้นย้ำถึงปัจจัยสำคัญ 8 ประการในด้านการเกษตรที่น่าจับตามองในปี 2024 โดยเน้นไปที่การขยายพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองในปีหน้า จากเหตุผลหลักสองประการ ได้แก่ การเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในสหรัฐฯ ที่น้อยลงในปี 2023 และความต้องการเชื้อเพลิงชีวภาพที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นที่ส่วนใหญ่ หลังจากที่สต๊อกถั่วเหลืองของสหรัฐฯ มีความตึงมือมากกว่าสต็อกข้าวโพด ท่ามกลางอัตราส่วนสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของถั่วเหลือง/ข้าวโพดในปัจจุบัน ที่ส่งสัญญาณถึงความต้องการพื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้น

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US Corn Futures - Mar 24 (ZCH4)

แนวต้านสำคัญ : 473.82, 474.3, 475.07

แนวรับสำคัญ : 472.28, 471.8, 471.03     

5H Outlook   

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 471.28 - 472.28 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 472.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 474.22 และ SL ที่ประมาณ 470.78 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 473.82 - 474.82 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 476.00 และ SL ที่ประมาณ 471.78 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 473.82 - 474.82 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 473.82 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 472.2 และ SL ที่ประมาณ 475.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 471.28 - 472.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 470.50 และ SL ที่ประมาณ 474.32 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 26, 2023 01:47PM GMT+7