สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 48.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 51.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล
อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 27,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.5 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงด้วย โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุล ลดลง 0.36% สู่ระดับ 89.6700
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 ม.ค. 2564 หลังจากที่มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 7.2 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 ซึ่งจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันไหลเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล/วัน