อัตราเงินเฟ้ออังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี นักลงทุนคาด BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ในเดือนพฤศจิกายน อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษมีอัตราต่ำสุดในรอบกว่าสองปี โดยลดลงเหลือ 3.9% จากระดับ 4.6% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ถูกลงและได้ส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งลดลง ขณะที่การอ่านค่าเงินเฟ้อหรือดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในการสำรวจของรอยเตอร์ ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 4.4% และมาตรวัดเงินเฟ้อพื้นฐานและการบริการที่ถูกติดตามอย่างใกล้ชิดโดยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อ่อนตัวลง
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างไม่คาดคิด ได้ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังมากขึ้นถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE ในช่วงครึ่งแรกของปีถัดไป โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอนภายในเดือนพฤษภาคม 2024 และมีโอกาสเกือบ 50% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษที่ลดลง โดยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรในขณะนี้จะสอดคล้องกับอัตราของฝรั่งเศส แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงสุดในบรรดากลุ่มประเทศเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว G7 โดยดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นถึง 21% นับตั้งแต่ปี 2020
อย่างไรก็ดี สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในเดือนพฤศจิกายนเป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่ลดลง (ต่ำกว่าปีก่อนหน้า 10.6%) และราคาอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยต่อเดือนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลอีกด้านเผยให้เห็นถึงภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอังกฤษ หลังจาก GDP ในไตรมาสที่สามหดตัว 0.1% ซึ่งภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เจเรมี ฮันต์ แย้มเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ BoE เพื่อกระตุ้นการเติบโต
อย่างไรก็ดี แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนยังคงสูงเกินความคาดหมาย โดยเพิ่มขึ้น 1.3% จากเดือนตุลาคม โดยได้รับแรงหนุนจากกิจกรรม Black Friday ที่สร้างแนวโน้มการใช้จ่ายเชิงบวกมากขึ้น
อีกด้าน ภาพรวมงบประมาณที่ตกต่ำของนายกรัฐมนตรี ริชิ ซูนัก เผยให้เห็นการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐที่สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 116.4 พันล้านปอนด์ในปีงบประมาณ เพิ่มขึ้น 24.4 พันล้านปอนด์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ช่องว่างทางการคลังของรัฐบาล หรือส่วนต่างในการลดภาษีหรือเพิ่มการใช้จ่ายเผชิญกับข้อจำกัด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวอาจลดภาระดอกเบี้ยเงินกู้ และอาจส่งผลให้ซูนักเพิ่มพื้นที่ทางการคลังเพิ่มเติม
ในขณะที่ธุรกิจต่างๆ มีมุมมองในแง่ลบมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในเดือนธันวาคม หลังจากที่มาตรวัดทางธุรกิจจาก Lloyds Bank แสดงให้เห็นความเชื่อมั่นที่ลดลงรายเดือนมากที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี โดยยังพบความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการปรับลดประมาณการผลผลิตระยะสั้นของธนาคารแห่งอังกฤษเมื่อเร็ว ๆ นี้ และการใช้อัตราดอกเบี้ย 5.25% อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย
ในตลาดโลก ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงและคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอเบาะแสเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลงในปี 2024 ขณะที่เฟดคาดว่าจะสร้างสมดุลทางเศรษฐกิจด้วยมาตรการเพื่อป้องกันช่องว่างที่เพิ่มขึ้นระหว่างอัตราอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังเผยให้เห็นถึงดัชนีราคาสหรัฐฯ ลดลงในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อรายปีต่ำกว่า 3% ท่ามกลางราคาที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้นในเดือนตุลาคม ที่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันกับการรายงานยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ จากมาสเตอร์การ์ด ที่เพิ่มขึ้น 3.1% และต่ำกว่าที่คาด จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ที่ได้ส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในสหรัฐฯ อาจช่วยลดแรงกดดันต่อภาระหนี้ของสหราชอาณาจักร และอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นทางการคลังในการลดภาษีได้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2731, 1.2734, 1.2740
แนวรับสำคัญ : 1.2719, 1.2716, 1.2710
5H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2709 - 1.2719 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2719 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2734 และ SL ที่ประมาณ 1.2704 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2731 - 1.2741 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2749 และ SL ที่ประมาณ 1.2714 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2731 - 1.2741 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2731 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2719 และ SL ที่ประมาณ 1.2746 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2709 - 1.2719 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2704 และ SL ที่ประมาณ 1.2736 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Dec 27, 2023 10:40AM GMT+7
Name | S3 | S2 | S1 | Pivot Points | R1 | R2 | R3 |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2704 | 1.2710 | 1.2719 | 1.2725 | 1.2734 | 1.2740 | 1.2749 |
Fibonacci | 1.2710 | 1.2716 | 1.2719 | 1.2725 | 1.2731 | 1.2734 | 1.2740 |
Camarilla | 1.2722 | 1.2724 | 1.2725 | 1.2725 | 1.2728 | 1.2729 | 1.2731 |
Woodie's | 1.2704 | 1.2710 | 1.2719 | 1.2725 | 1.2734 | 1.2740 | 1.2749 |
DeMark's | - | - | 1.2721 | 1.2726 | 1.2736 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2