เศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอจากอุปสงค์ที่หดตัว
เงินหยวนกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้ง เนื่องจากมีความคาดหวังจากนักลงทุนว่าทางธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว นอกจากนี้ ธนาคารรายใหญ่ของจีนได้แก่ Ping An Bank, Shanghai Pudong Development Bank และ China Citic Bank เริ่มมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงในสัปดาห์นี้ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมาของจีน
ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากธนาคารกลางของจีนยังคงพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อไป อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดีระยะเวลา 1 ปี (LPR) ยังคงอยู่ที่ 3.45% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดีระยะเวลา 5 ปี ยังคงอยู่ที่ 4.2% โดยภายในปีหน้าทางธนาคารกลางอาจมีการการลดอัตราส่วนสำรองเพื่อให้มีมีสภาพคล่องเพิ่่มมากขึ้น และเพิ่มความสามารถในการปล่อยกู้ของธนาคารต่างๆ ในประเทศ
ในขณะเดียวกัน ภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในสี่ของเศรษฐกิจจีนยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องหลังจากการฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังคงมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ในหมู่ผู้รับเหมาเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าทางรัฐบาลจีนจะมีพยายามกระตุ้นอุปสงค์และลดความกังวลเรื่องสภาพคล่องก็ตาม
กำไรที่บริษัทอุตสาหกรรมของจีนได้รับลดลง 4.4% เมื่อเทียบเป้นรายปี โดยลดลงเหลือ 6,982.28 พันล้านหยวนในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 แม้ว่าจะมีการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนก็ตาม โดยบริษัทส่วนใหญ่ยังคงได้รับแรงกดดันด้านอุปสงค์ที่หดตัวลงและมาร์จิ้นที่ลดลง โดยกำไรของบริษัทของรัฐลดลง 6.2% ในขณะที่ผลกำไรในภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 1.6% โดยได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมการถลุงเหล็กที่ 275.6%
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนลดลง 10% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงสู่ 1.04 ล้านล้านหยวนหรือ 145.51 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนต่างชาติยังคงลดการลงทุนและถอนการลงทุนต่างๆ ในจีนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความเชื่อมั่นของการฟื้นตัวของเศรษกิจจีนยังอ่อนแอ พบว่าการลงทุนส่วนใหญ่ลดลงในภาคบริการ ถึงอย่างนั้น การลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสุงเพิ่มขึ้นเป็น 37.2% โดยมาจากสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสที่มากกว่า 90%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.60% เนื่องจากธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยเงินนโยบายไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีการคาดการณ์จากนักลงทุนว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายต่อไปในปีหน้า นอกจากนี้ภาวะอุปสงค์ที่อ่อนตัวในประเทศและภาวะเงินฝืดที่เกิดขึ้นยิ่งมีความจำเป็นที่จีนต้องสนับสนุนเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปีหน้าเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.1477, 7.1514, 7.1532
แนวรับสำคัญ: 7.1421, 7.1402, 7.1365
ที่มา: Investing.com
จุดกลับตัว 27 ธันวาคม 2566 15:38 น. GMT+7
ชื่อ | S3 | S2 | S1 | จุดกลับตัว | R1 | R2 | R3 |
Classic | 7.1365 | 7.1402 | 7.1421 | 7.1458 | 7.1477 | 7.1514 | 7.1532 |
Fibonacci | 7.1402 | 7.1423 | 7.1437 | 7.1458 | 7.1479 | 7.1493 | 7.1514 |
Camarilla | 7.1424 | 7.1429 | 7.1434 | 7.1458 | 7.1445 | 7.1450 | 7.1455 |
Woodie's | 7.1355 | 7.1397 | 7.1411 | 7.1453 | 7.1467 | 7.1509 | 7.1522 |
DeMark's | - | - | 7.1412 | 7.1453 | 7.1468 | - | - |
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1477 - 7.1514 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1532 และ SL ที่ประมาณ 7.1402 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1477 - 7.1514 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.1477 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1402 และ SL ที่ประมาณ 7.1532 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.1402 - 7.1421 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1365 และ SL ที่ประมาณ 7.1514 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ตัวชี้วัดทางเทคนิค 27 ธันวาคม 2566 15:38 น. GMT+7
ชื่อ | มูลค่า | Action |
RSI(14) | 52.905 | ถือหุ้นไว้ |
STOCH(9,6) | 73.159 | ซื้อ |
STOCHRSI(14) | 60.088 | ซื้อ |
MACD(12,26) | -0.001 | ขาย |
ADX(14) | 42.100 | ซื้อ |
Williams %R | -24.907 | ซื้อ |
CCI(14) | 49.4246 | ถือหุ้นไว้ |
ATR(14) | 0.0049 | ผันผวนน้อยลง |
Highs/Lows(14) | 0.0013 | ซื้อ |
Ultimate Oscillator | 53.417 | ซื้อ |
ROC | -0.048 | ขาย |
Bull/Bear Power(13) | 0.0040 | ซื้อ |
ซื้อ:7 ขาย:2 ถือหุ้นไว้:2 สรุป:ซื้อทันที |