การปรับลดการคาดการณ์พืชผลบราซิล และการปรับฐานท่ามกลางการซื้อที่ชะลอตัวจากจีน

ตลาดถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยดีดตัวขึ้นหลังจากหดตัวเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางสัญญาซื้อขายเดือนมกราคมที่ยังคงมีปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยการคาดการณ์สภาพอากาศฝนตกในพื้นที่แห้งแล้งบางแห่งของบราซิลจนถึงกลางเดือนช่วยบรรเทาความกังวลในตลาด ขณะที่ความเสียหายจากช่วงต้นฤดูเพาะปลูกและการเปลี่ยนแปลงพื้นที่เพาะปลูกยังคงถูกจับตามอง

การประมาณการเมื่อวันพฤหัสบดีจาก CONAB สะท้อนถึงผลกระทบต่อพืชผลถั่วเหลืองของบราซิล โดยพืชผลประมาณครึ่งหนึ่งยังคงอยู่ในระยะเพาะปลูกเริ่มต้น ขณะที่การคาดการณ์สำหรับผลผลิตพืชผลของบราซิลที่ลดลงอาจสร้างโอกาสในการส่งออกสำหรับสหรัฐอเมริกา รวมถึงสภาพการเพาะปลูกในอาร์เจนตินาที่ยังคงอยู่ในระดับดี ท่ามกลางกากและน้ำมันถั่วเหลืองที่ยังคงได้รับการสนับสนุนจากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ก่อนการรายงานจาก CONAB และการตอบรับเชิงบวกต่อการรายงานข้อมูลกากถั่วเหลืองเมื่อวันอังคาร

StoneX ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านธุรกิจการเกษตร ได้ปรับลดการคาดการณ์สำหรับถั่วเหลืองของบราซิลในปี 2023-24 จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 161.9 ล้านตัน เหลือ 152.8 ล้านตัน เนื่องจากปริมาณน้ำฝนไม่เพียงพอในพื้นที่ปลูกที่สำคัญ หลังจากที่บราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก สามารถเก็บเกี่ยวได้ถึง 157.7 ล้านตันในปี 2022-23 โดยปริมาณฝนที่ตกไม่ปกติยังคงส่งผลกระทบต่อไร่ถั่วเหลืองส่วนใหญ่ รวมถึง Mato Grosso ซึ่งเป็นรัฐเพาะปลูกสำคัญ ขณะที่บางรัฐยังคงเผชิญกับความล่าช้าในการปลูกถั่วเหลือง และสภาพอากาศที่อาจส่งผลต่อปริมาณการเก็บเกี่ยวขั้นสุดท้าย โดย StoneX ยังลดการคาดการณ์การส่งออกถั่วเหลืองลงเหลือ 95 ล้านตัน ท่ามกลางผลกระทบจากฤดูแล้งที่ส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองเร็วขึ้น และเอื้อต่อการหว่านข้าวโพดฤดูหนาว

ทางด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งเป็นประเทศหลักในการค้าถั่วเหลืองยังคงมีความผันผวน การส่งออกพืชผลการเกษตรของสหรัฐฯ ไปยังจีน โดยเฉพาะถั่วเหลือง ลดลงอย่างมากตั้งแต่กลางปี 2018 ถึงสิ้นปี 2019 ท่ามกลางการถกเถียงเกี่ยวกับการเพิกถอนสถานะคู่ค้าหลักของประเทศจีน โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาจีนในสหรัฐฯ ซึ่งแม้จะมีการยอมรับถึงแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม แต่ยังคงความระมัดระวังในการใช้มาตรการที่รุนแรง โดยเน้นย้ำถึงการไม่สามารถทดแทนตลาดจีนสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในอเมริกาได้

ทั้งนี้ แม้สัญญาถั่วเหลือง CBOT จะมีการลดลงในช่วงแรก แต่ได้ดีดตัวขึ้นในวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดตอบรับเชิงบวกต่อปริมาณฝนที่เอื้ออำนวยในพื้นที่เพาะปลูกของบราซิล โดยการเข้าซื้อหลังเทขายมีส่วนช่วยหนุนราคาถั่วเหลือง CBOT ขึ้นหลังจากร่วงลงล่าสุด อย่างไรก็ตาม ตลาดถั่วเหลืองยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ซื้อยังไม่เห็นความเร่งด่วนในการเพิ่มการนำเข้าถั่วเหลืองของสหรัฐฯ เพื่อชดเชยการขาดแคลนที่อาจเกิดขึ้นในพืชผลของบราซิล ขณะที่ความคาดหวังในการเพิ่มผลผลิตในประเทศอื่นๆ ในอเมริกาใต้ เช่น อาร์เจนตินา ปารากวัย และอุรุกวัย ยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด รวมถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ประกอบกับสภาพอากาศที่ดีขึ้นในอเมริกาใต้ ที่ช่วยเพิ่มความซับซ้อนให้กับการเปลี่ยนแปลงของตลาดถั่วเหลืองในระยะสั้น ขณะที่นักวิเคราะห์ของ StoneX แม้จะปรับลดประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลในปี 2023/24 ลง แต่ได้แนะนำถึงอุปทานที่สูงขึ้นจากผู้ผลิตรายอื่นๆ ในอเมริกาใต้ที่อาจช่วยชดเชยการอุปทานที่ลดลงได้

อย่างไรก็ดี ตลาดถั่วเหลืองคาดว่าจะเผชิญกับแรงกดดันขาลงในช่วงต้นปี 2024 ท่ามกลางแนวโน้มขาลงที่ดูเหมือนจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และโอกาสในการต่อรองราคากับผู้ซื้อปลายทาง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลผลิตถั่วเหลืองที่จะเกิดขึ้นจริงในบราซิล ส่งผลต่อตัวแปรที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อราคาตลอดช่วงฤดูเพาะปลูกของอเมริกาใต้

ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์เทคนิคของผู้เชี่ยวชาญ ราคาถั่วเหลืองที่ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปีได้ทำให้เกิดช่องว่างในกราฟซื้อขาย โดยคาดการณ์ถึงการปรับฐานที่เป็นไปได้ระหว่างช่วงเป้าหมายที่ US$12.9075 ถึง US$12.9675 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าการปรับฐานอาจเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่การซื้อของจีนกำลังชะลอตัว ท่ามกลางสัญญาซื้อขายถั่วเหลืองล่วงหน้าในช่วงเดือนที่ใกล้จะถึง ซึ่งเริ่มต้นปี 2024 ด้วยราคาที่ต่ำ และกำลังเข้าใกล้จุดต่ำสุดของเดือนตุลาคมที่ 1,268 ซึ่งอาจเป็นแนวรับชั่วคราว ในขณะที่จุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายนที่ 1,257 จะกลายเป็นแนวรับสำคัญถัดไป

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Jan 24 (ZSF4)

แนวต้านสำคัญ : 1276.34, 1277.38, 1279.05

แนวรับสำคัญ : 1273.00, 1271.96, 1270.29                

1H Outlook

ที่มา: Investing.com       

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1271.00 - 1273.00 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1273.00 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1277.34 และ SL ที่ประมาณ 1270.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1276.34 - 1278.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1281.00 และ SL ที่ประมาณ 1272.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1276.34 - 1278.34 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1276.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1272.96 และ SL ที่ประมาณ 1279.34 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1271.00 - 1273.00 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1269.00 และ SL ที่ประมาณ 1277.34 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 4, 2024 02:43PM GMT+7