บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 9 มกราคม 2567

Create at 10 months ago (Jan 09, 2024 09:57)

ภาคเทคโนโลยีแข็งแกร่ง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ลดลงและความคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีหุ้นทั่วโลกเผชิญโมเมนตัมเชิงบวกในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% ในดัชนี Nasdaq จากการเพิ่มขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันของสหรัฐฯ เผชิญกับการลดลง 4% จากการลดราคาของซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นของสหรัฐฯ จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยในคืนวันจันทร์ แต่ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในระหว่างเซสชั่น ได้ส่งผลให้มูลค่าหุ้นสหรัฐฯ สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเทคโนโลยี การบริการผู้บริโภค และสินค้าอุปโภคบริโภค

ทั้งนี้ นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวทางของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 ขณะที่ตลาดตราสารทุนเริ่มต้นปีด้วยความทุลักทุเล เนื่องจากนักลงทุนเลือกที่จะกอบโกยกำไร หลังจากดัชนีส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นอย่างมากในช่วงสองเดือนสุดท้ายของปี 2023 ประกอบกับความกังวลของตลาดที่เกิดขึ้นก่อนฤดูกาลรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายสัปดาห์ ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่น

ในด้านบวก ดัชนี Nasdaq บันทึกการดีดตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกอย่างน้อย 1% ในปี 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนตั๋วคลังที่ลดลง ซึ่งช่วยผลักดันหุ้นในกลุ่มเมก้าแคปเพิ่มขึ้น โดย Amazon.com และ Alphabet ปิดตัวขึ้น 2.66% และ 2.29% ตามลำดับ Apple เพิ่มขึ้น 2.42% หลังการประกาศความพร้อมของอุปกรณ์ Vision Pro ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์เป็นต้นไปในสหรัฐอเมริกา ขณะที่หุ้นในบริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia และ Advanced Micro Devices พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนี Philadelphia SE Semiconductor Index สูงขึ้น 3.28%

ทางด้านหุ้นบริษัทโบอิ้งร่วงลง 8.03% หลังจากที่บริษัทและหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ อนุญาตให้สายการบินต่างๆ ตรวจสอบเครื่องบินที่จอดอยู่ ภายหลังเหตุชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน 737 MAX 9 ที่ให้บริการโดยสายการบินอลาสกา แอร์ไลน์ หลุดกลางอากาศ จนเป็นอันตรายเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้จำกัดผลกำไรในดัชนีดาวโจนส์

ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq พบเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% รายวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม นับเป็นการเพิ่มขึ้นรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน ท่ามกลางดัชนีพลังงาน S&P 500 ที่ลดลงเพียงดัชนีเดียวใน 11 กลุ่มธุรกิจใน S&P 500 โดยร่วงลงถึง 1.16% จากราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลงประมาณ 4% หลังจากการลดราคาของซาอุดีอาระเบียและการเพิ่มการผลิตของ OPEC

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง ขณะที่นักลงทุนรอคอยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะพบอัตราเงินเฟ้อ รายได้ และการใช้จ่ายที่ลดลงในช่วงหลายปีข้างหน้า ตามรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) นิวยอร์ก

ทั้งนี้ การคาดการณ์ของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 25 จุดในเดือนมีนาคม ลดลงจาก 88.5% มาอยู่ที่ 63.8% ในสัปดาห์นี้ ตามรายงานของ CME FedWatch Tool ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ผ่อนคลายลง เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนธันวาคม และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแผนการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ รายได้ และการใช้จ่ายจะลดลงในช่วงหลายปีข้างหน้า ตามรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ นิวยอร์ก โดยนักลงทุนยังรอคอยการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสจากธนาคารหลักๆ เช่น JPMorgan Chase ขณะที่เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นจากผลลัพธ์ของตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 35180.4, 35192.1, 35211.1

แนวรับสำคัญ : 37606.2, 37584.2, 37548.5        

5H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: Investing.com                     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 37516.2 - 37606.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 37606.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37683.9 และ SL ที่ประมาณ 37471.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 37677.6 - 37767.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37810.0 และ SL ที่ประมาณ 37561.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 37677.6 - 37767.6 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 37677.6 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37590.5 และ SL ที่ประมาณ 37813.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 37516.2 - 37606.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37480.0 และ SL ที่ประมาณ 37722.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 9, 2024 09:18AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 37497.1 37548.5 37590.5 37641.9 37683.9 37735.3 37777.3
Fibonacci 37548.5 37584.2 37606.2 37641.9 37677.6 37699.6 37735.3
Camarilla 37606.7 37615.3 37623.8 37641.9 37641 37649.5 37658.1
Woodie's 37492.3 37546.1 37585.7 37639.5 37679.1 37732.9 37772.5
DeMark's - - 37616.1 37654.7 37709.6 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: Blog
รู้เท่าทันข่าว&สถานการณ์โลก: News
บทวิเคราะห์เชิงเทคนิคขั้นสูง: Analysis
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES