บทวิเคราะห์ EUR/USD วันที่ 12 มกราคม 2567

Create at 10 months ago (Jan 12, 2024 11:42)

ความผันผวนของเงินยูโรท่ามกลางดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่ตกต่ำและความกังวลด้านเงินเฟ้อ

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเผชิญความผันผวน หลังจากเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนที่จะอ่อนตัวลงตามการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่สูงกว่าคาด

ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) รับทราบเมื่อวันพุธว่ายูโรโซนอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่แล้ว ท่ามกลางแนวโน้มทางเศรษฐกิจในระยะสั้นที่ยังคงอ่อนแอ โดยการเติบโตของยูโรโซนอยู่ที่ประมาณศูนย์เกือบตลอดปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในปีนี้ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้

ข้อมูลจากต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นการลดลงของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสาธารณรัฐเช็กและฮังการี ตามแนวโน้มที่ที่พบในเยอรมนีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของภูมิภาค และคู่ค้าสำคัญ โดยความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของยุโรปกลางนั้นยังคงความชัดเจน แม้ว่าธนาคารกลางในภูมิภาคจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลง

ทางด้านดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของเยอรมนีมีภาพรวมที่ย่ำแย่ หลังจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อสำหรับการผลิตในเยอรมนีบ่งชี้ถึงการหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงมากถึง 2% ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งความอ่อนแอทางอุตสาหกรรมนี้ยังได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก (CEE) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี เช่น ฮังการีและสาธารณรัฐเช็ก

ทางด้านภาคการก่อสร้างของเยอรมนีเผชิญกับแนวโน้มที่ไม่สู้ดีในปี 2024 โดยคาดว่าการลงทุนจะลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงิน ขณะที่ยอดค้าปลีกในเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้เกิดสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกภาคส่วนในเยอรมนีที่กำลังเผชิญกับภาวะตกต่ำ โดยภาคไอทีและโทรคมนาคมคาดว่าจะคงประสิทธิภาพเหนือกว่าการดำเนินงานของเศรษฐกิจโดยรวม ตามการศึกษาของสมาคมดิจิทัลแห่งเยอรมนี Bitkom อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์การเติบโตของภาคส่วนนี้ยังคงเป็นไปได้ช้า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา และจีน

ทั้งนี้ S&P มองว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุโรปกลางอาจแซงหน้ายูโรโซนในปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ฟื้นตัว เนื่องจากค่าจ้างที่แท้จริงฟื้นตัวจากการตกต่ำอย่างมากในปีที่แล้ว หลังจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงถึงเลขสองหลัก

ทางด้านคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB แสดงความมุมมองในแง่ดีถึงสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจบลงแล้ว และบอกเป็นนัยถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อตกลงไปที่ระดับ 2% ขณะที่ ECB คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะผันผวนระหว่าง 2.5% ถึง 3% ในช่วงส่วนใหญ่ของปี อย่างไรก็ตาม นักลงทุนได้คาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยห้าครั้งในปี 2024 โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมีนาคมหรือเมษายน

ในสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเนื่องจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคที่สูงกว่าที่คาด ที่ได้สร้างข้อสงสัยเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของสหรัฐฯ เร่งตัวขึ้นในเดือนธันวาคมแตะ 3.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่อัตราพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมสินค้าที่ผันผวน ชะลอตัวลงเล็กน้อยเหลือ 3.9%

โดยนอกจากอัตราเงินเฟ้อแล้ว ตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ยังคงเป็นจุดสนใจหลักสำหรับนักวิเคราะห์ หลังจากที่ภาคแรงงานยังคงความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง และถูกมองว่าเป็นปัจจัยสนับสนุนความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการลงจอดอย่างนุ่มนวลให้กับเศรษฐกิจ โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเล็กน้อย ขณะที่ค่าเฉลี่ยสี่สัปดาห์ยังคงค่อนข้างคงที่ โดยแม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เจ้าหน้าที่เฟดบางคน รวมถึงลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดของคลีฟแลนด์ เชื่อว่าอาจเร็วเกินไปที่จะพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมีนาคม หลังจากพิจารณาจากตัวเลข CPI ล่าสุด จึงอาจส่งผลให้ค่าเงินยูโรอาจปรับตัวขึ้นลงในช่วงกรอบแคบๆ ได้ช่วงนี้ โดยอาจยังคงแนวโน้มอ่อนค่ากว่าดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.0984, 1.0988, 1.0993

แนวรับสำคัญ : 1.0972, 1.0968, 1.0963                       

5H Outlook  

วิเคราะห์ EUR/USD ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0962 - 1.0972 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0972 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0986 และ SL ที่ประมาณ 1.0957 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0984 - 1.0994 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.1001 และ SL ที่ประมาณ 1.0967 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0984 - 1.0994 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0984 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0971 และ SL ที่ประมาณ 1.0999 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0962 - 1.0972 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0955 และ SL ที่ประมาณ 1.0989 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 12, 2024 11:25AM GMT+7

Name S3 S2 S1 Pivot Points R1 R2 R3
Classic 1.0955 1.0963 1.0971 1.0978 1.0986 1.0993 1.1001
Fibonacci 1.0963 1.0968 1.0972 1.0978 1.0984 1.0988 1.0993
Camarilla 1.0974 1.0975 1.0977 1.0978 1.0979 1.0981 1.0982
Woodie's 1.0955 1.0963 1.0971 1.0978 1.0986 1.0993 1.1001
DeMark's - - 1.0974 1.0980 1.0989 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES