อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาเพิ่มขึ้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าช้าท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

แคนาดาเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อประจำปีที่เพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 3.1% ในเดือนพฤศจิกายนเป็น 3.4% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้น แตะ 3.6% โดยราคาน้ำมันเบนซินที่สูงขึ้น พร้อมด้วยราคาตั๋วเครื่องบิน ยานพาหนะโดยสาร และค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น เป็นแรงผลักดันสำคัญ ซึ่งแม้ว่าธนาคารกลางจะคาดการณ์ว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้ภายในสิ้นปี 2025 แต่ผู้ว่าการฯ ทิฟ แม็กเล็มคาดหวังว่าอัตราอาจเข้าใกล้เป้าหมายได้ภายในสิ้นปีนี้

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาคาดว่าจะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงเดือนมิถุนายนเป็นอย่างน้อย เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ โดยแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ก็ยังคงไม่ครอบคลุมทุกภาคส่วน ท่ามกลางดัชนีราคาผู้บริโภคที่ยังคงเกินกรอบเป้าหมาย 1-3% ของธนาคารกลาง โดยค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่สูงขึ้นได้ส่งผลให้อาจมีการชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ขณะที่ผู้ว่าการแม็กเลมยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงโมเมนตัมที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในการเปลี่ยนแปลงนโยบายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น

อีกด้าน จากผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่าธุรกิจในแคนาดาคาดการณ์ว่ายอดสั่งซื้อจะลดลงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเผยให้เห็นถึงความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยผู้บริโภค 61% คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีหน้า ในขณะเดียวกัน แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจแคนาดาตามการสำรวจ ยังคงแสดงให้เห็นภาพที่ค่อนข้างเป็นบวก โดยคาดว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเติบโต 0.6% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว

ทางด้านยอดค้าปลีกในเดือนพฤศจิกายนลดลงอย่างไม่คาดคิดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของยอดขายอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ประมาณการเบื้องต้นสำหรับเดือนธันวาคมชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลวันหยุด ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยปิดท้ายปีเป็นบวก จากยอดขายบ้านที่เพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม และโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น 18% ในเดือนเดียวกัน

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อยในวันศุกร์หลังจากเพิ่มขึ้นติดต่อกันห้าครั้ง โดยยังคงแนวโน้มว่าจะไต่ระดับขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจและความเห็นของธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ โดยล่าสุด นักลงทุนตั้งเป้าถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ตอกย้ำถึงแนวทางที่ระมัดระวังของเฟด

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเชิงบวก ได้แก่ การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลงอย่างมากสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1-1/2 ปี บ่งชี้ถึงการเติบโตของภาคแรงงานที่แข็งแกร่งในเดือนมกราคม ประกอบกับยอดขายปลีกที่แข็งแกร่งในเดือนธันวาคม ส่งผลให้โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมน้อยลง ท่ามกลางความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2-1/2 ปีในเดือนมกราคม ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและรายได้ครัวเรือน อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกันเองกำลังเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงความยืดหยุ่น โดยคาดการณ์ถึงอัตราเงินเฟ้อที่อาจต่ำลงในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งได้ส่งผลดีต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี คู่สกุล USD/CAD คาดว่าอาจเผชิญแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบกว้างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง จากความต่างของผลตอบแทนระหว่างทั้งสองประเทศที่ไม่มากนัก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3430, 1.3433, 1.3436

แนวรับสำคัญ : 1.3424, 1.3421, 1.3418             

1H Outlook            

ที่มา: Investing.com                                             

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3419 - 1.3424 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3424 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3433 และ SL ที่ประมาณ 1.3417 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3430 - 1.3435 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3442 และ SL ที่ประมาณ 1.3422 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3430 - 1.3435 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3430 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3424 และ SL ที่ประมาณ 1.3437 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3419 - 1.3424 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3415 และ SL ที่ประมาณ 1.3432 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 22, 2024 09:14AM GMT+7