Bitcoin มีมูลค่าลดลงมากกว่า 20% นับตั้งแต่จุดสูงสุดที่ 48,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้อนุมัติกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนของ Bitcoin (ETF) ครั้งแรก ทำให้นักลงทุนจับตาดูว่าอาจจะมีการประกาศการจัดตั้ง Ethereum ETF ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม นอกจากนี้
นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank ระบุว่ามีเงินทุนเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์ได้ไหลเข้าสู่ Spot Bitcoin ETF โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ดำเนินการโดย BlackRock และ Fidelity แต่คาดว่าเงินทุนประมาณ 2.8 พันล้านดอลลาร์เกิดจากการถอนการลงทุนจาก Grayscale ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในกองทุนทรัสต์ Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งได้รับผลจากการล้มละลายของ FTX และทำให้ NAV ของกองทุน GBTC ของ Grayscale ได้ลดลงประมาณ -40%
แม้ราคาของ Bitcoin จะลดลงจากการขายทรัพย์สินของกองทุนทรัสต์ของ Grayscale แต่ปัจจัยขับเคลื่อนพื้นฐานของตลาดกระทิงยังคงเหมือนเดิม นอกจากนี้การตั้ง Bitcoin ETF ยังทำให้การใช้สกุลเงินดิจิทัลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยความสนใจของสถาบันยังคงสูงอยู่และมีการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนใหม่ๆ เกิดขึ้นต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกลับมาอีกครั้งเมื่อผลกระทบจาก Grayscale หายไป
โดยตลาดสกุลเงินดิจิทัลยังแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นเมื่อเจอกับความท้าทายในอดีต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Bitcoin ที่มีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่จำกัดและความต้องการที่เพิ่มขึ้น
หลังจากที่มีการอนุมัติ Bitcoin ETF นักลงทุนต่างรอ Bitcoin halving ที่กำลังจะมาถึงซึ่งคาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายน โดยในอดีต Bitcoin จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากเกิด Bitcoin halving เหตุการณ์นี้อาจผลักดันนักขุดจะยังไม่ขายกำไรออกจากตลาดและยังสร้างความมั่นคงด้านราคาได้บางส่วน
ทั้งนี้ กระแสการเกิด Bitcoin halving เริ่มเบาบางลงหลังจากการตั้ง Bitcoin ETF ทำให้นักเก็งกำไรเริ่มเทขายทำกำไรกันมากขึ้น นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่า Bitcoin ETF ได้มีการซื้อ Bitcoin ไว้ก่อนหน้าที่จะมีการจัดตั้ง โดยมีการคาดการณ์ไว้ที่ 28,000 ดอลลาร์ โดยปริมาณการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมงลดลง ทำให้ในปัจจุบันมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 20.4 พันล้านดอลลาร์ จากที่ประมาณ 24 พันล้านดอลลาร์
แนวต้านสำคัญ: 40175.4, 40508.7, 40787.4
แนวรับสำคัญ: 39563.4, 39284.7, 38951.4
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 39284.7 - 39563.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 39563.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40508.7 และ SL ที่ประมาณ 38951.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 40175.4 - 40508.7 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 40787.4 และ SL ที่ประมาณ 39284.7 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 40175.4 - 40508.7 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 40175.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39284.7 และ SL ที่ประมาณ 40787.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 39284.7 - 39563.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38951.4 และ SL ที่ประมาณ 40508.7 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 24 มกราคม 2567 17:07 น. GMT+7
|
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
| Classic | 38951.4 | 39284.7 | 39563.4 | 39896.7 | 40175.4 | 40508.7 | 40787.4 |
| Fibonacci | 39284.7 | 39518.5 | 39662.9 | 39896.7 | 40130.5 | 40274.9 | 40508.7 |
| Camarilla | 39673.7 | 39729.8 | 39785.9 | 39896.7 | 39898.1 | 39954.2 | 40010.3 |
| Woodie's | 38924 | 39271 | 39536 | 39883 | 40148 | 40495 | 40760 |
| DeMark's | - | - | 39424 | 39827 | 40036 | - | - |
List of content
FXtoday.news เป็นเพียงเว็บไซต์ที่นำเสนอข่าวสาร และให้ความรู้เกี่ยวกับตลาดทางการเงิน โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชักนำหรือเชิญชวน ในการลงทุนแต่อย่างใด โดยจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์
