ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากมุมมองเชิงบวกในภาคเทคโนโลยี

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทะยานขึ้นสู่ระดับนิวไฮใหม่ในวันจันทร์ ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนในภาคเทคโนโลยี ก่อนรายงานผลประกอบการหลัก ขณะที่กิจกรรมสำคัญ เช่น การประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และรายงานการจ้างงานประจำเดือนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ได้ส่งผลต่อความคาดหวังและอารมณ์กระตือรือร้นในหมู่นักลงทุน

สัปดาห์ที่แล้ว S&P 500 พุ่งขึ้น 1.1% เข้าใกล้ระดับ 5,000 ท่ามกลางความกังวลในช่วงแรก หลังจากผลการรายงานรายได้ที่น่าผิดหวังจากบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง GE โดยตลาดพลิกกลับฟื้นตัวขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจเชิงบวกและผลกำไรด้านเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง รวมถึงผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมจาก Netflix

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยียังคงความผันผวนเป็นพิเศษ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ถึงรายงานผลประกอบการจากผู้เล่นรายใหญ่หลายราย อย่าง Alphabet, Microsoft, Apple, Amazon และ Meta Platforms ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีกำหนดประกาศผลการดำเนินงานในช่วงนี้ โดย SoFi Technologies Inc. ได้กลายเป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ หลังจากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นถึง 20% เหนือการประมาณการของวอลล์สตรีท ในทางกลับกัน iRobot ลดลง 9% หลังจากยุติข้อตกลงการซื้อกิจการกับ Amazon

อย่างไรก็ดี โมเมนตัมเชิงบวกในภาคเทคโนโลยี ยังได้รับแรงสนับสนุนจากอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่ลดลง หลังมีการปรับแก้ไขการคาดการณ์จำนวนการกู้ยืมเงินของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการกู้ยืมที่อาจสูงเกินลิมิต ในขณะเดียวกัน การสำรวจผู้บริโภคของ Morgan Stanley เผยให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งสัญญาณถึงการเติบโตที่อาจเกิดขึ้นในการใช้จ่ายเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อีกด้าน เมื่อวันอังคาร ค่าเงินดอลลาร์ยังคงค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ โดยนักลงทุนยังคงจับตาดูการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆ นี้ เพื่อมองหาทิศทางเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น พร้อมกันกับการเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งงานว่างจากกระทรวงสถิติแรงงานของสหรัฐอเมริกาในช่วงหลังของวัน ที่คาดว่าจะสามารถส่งสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับการรายงานเงินเดือนที่ถูกจับตามองอย่างมาก และมีกำหนดการเผยแพร่ในวันศุกร์ที่จะถึง

ทั้งนี้ ปฏิทินเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ประกอบด้วยการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานว่างของ JOLTS ความเชื่อมั่นผู้บริโภค การจ้างงานภาคเอกชน และการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะมีอิทธิพลสูงต่อตลาด ขณะที่รายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งผลการดำเนินงานของบริษัทเหล่านี้ ซึ่งนับเป็นอัตราส่วนสำคัญของดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 4930.2, 4932.1, 4935.2

แนวรับสำคัญ : 4924.0, 4922.1, 4919.0               

5H Outlook

1H Outlook              

ที่มา: Investing.com                            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4914.0 - 4924.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4924.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4931.6 และ SL ที่ประมาณ 4909.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 4930.2 - 4940.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4945.0 และ SL ที่ประมาณ 4919.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 4930.2 - 4940.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 4930.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4923.5 และ SL ที่ประมาณ 4945.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4914.0 - 4924.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4895.0 และ SL ที่ประมาณ 4935.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 30, 2024 08:57AM GMT+7