เศรษฐกิจแคนาดาแสดงสัญญาณฟื้นตัว เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัว

ในเดือนธันวาคม เศรษฐกิจของแคนาดาพบแนวโน้มการเติบโต หลังจากขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤศจิกายนมากกว่าที่คาดไว้ ประมาณการเบื้องต้นโดย Statistics Canada ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มขยายตัว 0.3% ในเดือนธันวาคม ส่งผลให้อัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 1.2% สำหรับไตรมาสที่สี่ โดยแนวโน้มเชิงบวกนี้บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้ายของปี สวนทางกับการหดตัว 1.1% ในไตรมาสที่สาม หากข้อมูลดังกล่าวได้รับการยืนยัน อาจเป็นข้อบ่งชี้ว่าแคนาดาอาจสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยในทางเทคนิคได้

ในทางตรงกันข้าม การผลิตของแคนาดาเผชิญกับการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ในเดือนมกราคม อย่างไรก็ตาม พบการชะลอตัวของการหดตัวอันเนื่องมาจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง และความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ แม้จะมีความกังวลเกิดขึ้นเกี่ยวกับระยะเวลารอคอยโดยเฉลี่ยที่นานขึ้นสำหรับการส่งมอบวัตถุดิบ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความล่าช้าในการขนส่งอันเนื่องมาจากวิกฤตทะเลแดงและคลองสุเอซ

ทางด้านธุรกิจขนาดเล็กในแคนาดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจที่มีพนักงานน้อยกว่า 100 คน เผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการล้มละลาย หลังจากที่รัฐบาลยุติการสนับสนุนในช่วงการแพร่ระบาดเมื่อเดือนที่แล้ว และจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและอัตราดอกเบี้ยที่สูงสุดในรอบ 22 ปี โดยการล้มละลายที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นถึง 38% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2023 และอาจเป็นภัยคุกคามต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจได้

ในขณะเดียวกัน ทิฟ แม็กเล็ม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศแคนาดาคัดค้านการใช้จ่ายที่อาจเพิ่มขึ้นอย่างมากในงบประมาณของรัฐบาลกลางที่กำลังจะมาถึง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของความพยายามของธนาคารกลางในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่ธนาคารกลางแคนาดาคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 22 ปี เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ โดยแม้ว่าการเติบโตของ GDP จะยังอยู่ในระดับปานกลาง แต่ผู้ว่าการธนาคารยังคงเน้นย้ำถึงความเป็นไปได้ในการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหากพบเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน โดยตลาดเงินปรับลดมุมมองถึงโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือนเมษายนจาก 51% เหลือ 42%

ในสหรัฐอเมริกา ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้จะเกิดขึ้น โดยยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบรรเทาความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้ออย่างยั่งยืน ก่อนที่จะพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานในสหรัฐฯ แซงหน้าการคาดการณ์ในไตรมาสที่สี่ โดยอาจช่วยให้เฟดสามารถควบคุมต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้ อย่างไรก็ตาม ความกังวลจากโมเมนตัมของตลาดแรงงานที่อ่อนตัวลงยังคงมีอยู่ หลังจากตัวเลขการขอรับสวัสดิการการว่างงานและการประกาศลดจำนวนงานเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคม

ทั้งนี้ ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนมีนาคมลดลง โดยพบโอกาส 38% เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ที่มากกว่า 70% เมื่อเดือนที่แล้ว โดยเครื่องมือ CME FedWatch ยังแสดงความคาดหวังที่ลดลงในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยความเป็นไปได้ลดลงเหลือ 35% จาก 73% ในช่วงปลายเดือนธันวาคม จึงอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจยังคงได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้ โดยขาขึ้นคาดว่าจะยังคงถูกจำกัดจากส่วนต่างของผลตอบแทนของทั้งสองประเทศที่ไม่ต่างกันมากนัก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3392, 1.3397, 1.3406

แนวรับสำคัญ : 1.3374, 1.3369, 1.3360                          

5H Outlook

ที่มา: Investing.com                                                      

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3364 - 1.3374 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3374 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3396 และ SL ที่ประมาณ 1.3359 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3392 - 1.3402 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3418 และ SL ที่ประมาณ 1.3369 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3392 - 1.3402 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3392 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3373 และ SL ที่ประมาณ 1.3407 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3364 - 1.3374 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3350 และ SL ที่ประมาณ 1.3397 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 2, 2024 10:40AM GMT+7