BoE เผชิญกับการตรวจสอบการขายพันธบัตร คาดอัตราเงินเฟ้อลดลงที่ 2.2% ในปี 2024
อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรในช่วงปลายปีที่แล้วได้รับการแก้ไขปรับลดลง โดยอยู่ที่ 3.9% ในช่วงสามเดือนถึงเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ 4.2% โดยการแก้ไขดังกล่าว อิงจากผลการสำรวจที่มีการถ่วงน้ำหนักซึ่งสะท้อนถึงการประมาณการประชากรล่าสุด อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ขณะที่ BoE ติดตามตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อว่าจะสามารถลดลงเพียงพอที่จะรับประกันการปรับลดอัตราปัจจุบันที่ 5.25% หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ BoE ใช้ความระมัดระวังและชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นปี 2024 เป็นบวก โดยพบคำสั่งซื้อใหม่ที่แข็งแกร่งและการจ้างงานที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 6 เดือน แตกต่างกับตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากการหยุดชะงักในการขนส่งในทะเลแดง ขณะที่ BoE คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2024 ท่ามกลางฮิว พิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE ที่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับค่าจ้างและต้นทุนแรงงานในภาคการบริการที่เพิ่มขึ้น
ทางด้านกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรและ BoE เผชิญกับการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับการขายพันธบัตรรัฐบาลที่สะท้อนในงบดุลของธนาคารกลาง โดยนิติบัญญัติแนะนำให้พิจารณาผลประโยชน์ของผู้เสียภาษีในการตัดสินใจเกี่ยวกับการขายพันธบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ BoE เปลี่ยนจากการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปสู่การใช้ความเข้มงวดเชิงปริมาณ (QT) ซึ่งการถือครองพันธบัตรของ BoE ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำกำไร กำลังกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในด้านการเงินสาธารณะ และส่งผลกระทบต่อพื้นที่การคลังของรัฐบาล
ทางด้านการก่อสร้าง มุมมองเชิงบวกในหมู่บริษัทในสหราชอาณาจักรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการหยุดชะงักในทะเลแดงซึ่งส่งผลกระทบต่อการลำเลียงสินค้า โดยแนวโน้มของภาคการก่อสร้างได้สอดคล้องกับข้อมูลจาก Royal Institution of Chartered Surveyors ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น
ทางด้านสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NIESR) คาดการณ์ว่ามาตรฐานการครองชีพของอังกฤษจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอยระดับเริ่มต้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ในขณะที่มาตรฐานการครองชีพโดยรวมคาดว่าจะเติบโต 1.9% ในปีงบประมาณ 2024/25 โดยครัวเรือนที่ยากจนอาจไม่สามารถฟื้นกำลังซื้อไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้จนถึงปี 2027
ทั้งนี้ ในปี 2024 อัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 2.2% ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 7.4% ในปี 2023 โดยการลดลงนี้มีสาเหตุมาจากราคาพลังงานที่ลดลง ซึ่งการประมาณการชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 2.2% จนถึงปี 2028
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยธนาคารลงเหลือ 3.25% ภายในปี 2026 ซึ่งเร็วกว่าถึงสองปี จากที่ NIESR เคยคาดการณ์ไว้ โดย NIESR เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนภาครัฐมากกว่าการลดภาษีก่อนการเลือกตั้งเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงรายงานการว่างงานที่แข็งแกร่ง และคำแถลงจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้ลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นและในอัตราที่รวดเร็ว โดยค่าเงินดอลลาร์คาดว่าจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ ขณะที่นักเก็งกำไรสกุลเงินปรับลดสถานะการชอร์ตสกุลเงินดอลลาร์ลง โดยการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเมื่อเทียบกับธนาคารกลางอื่นๆ จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเส้นทางของเงินดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะค่อยๆอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วง 3, 6 และ 12 เดือนข้างหน้านี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2611, 1.2613, 1.2616
แนวรับสำคัญ : 1.2605, 1.2603, 1.2600
1H Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2600 - 1.2605 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2605 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2611 และ SL ที่ประมาณ 1.2598 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2611 - 1.2616 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2619 และ SL ที่ประมาณ 1.2603 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2611 - 1.2616 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2611 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2603 และ SL ที่ประมาณ 1.2618 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2600 - 1.2605 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2596 และ SL ที่ประมาณ 1.2613 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 7, 2024 10:09AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2596 | 1.26 | 1.2603 | 1.2608 | 1.2611 | 1.2616 | 1.2619 |
Fibonacci | 1.26 | 1.2603 | 1.2605 | 1.2608 | 1.2611 | 1.2613 | 1.2616 |
Camarilla | 1.2604 | 1.2605 | 1.2606 | 1.2608 | 1.2607 | 1.2608 | 1.2609 |
Woodie's | 1.2596 | 1.26 | 1.2603 | 1.2608 | 1.2611 | 1.2616 | 1.2619 |
DeMark's | - | - | 1.2602 | 1.2607 | 1.261 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ