บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567

Create at 10 months ago (Feb 07, 2024 10:31)

BoE เผชิญกับการตรวจสอบการขายพันธบัตร คาดอัตราเงินเฟ้อลดลงที่ 2.2% ในปี 2024

อัตราการว่างงานของสหราชอาณาจักรในช่วงปลายปีที่แล้วได้รับการแก้ไขปรับลดลง โดยอยู่ที่ 3.9% ในช่วงสามเดือนถึงเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ 4.2% โดยการแก้ไขดังกล่าว อิงจากผลการสำรวจที่มีการถ่วงน้ำหนักซึ่งสะท้อนถึงการประมาณการประชากรล่าสุด อาจส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) ขณะที่ BoE ติดตามตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อว่าจะสามารถลดลงเพียงพอที่จะรับประกันการปรับลดอัตราปัจจุบันที่ 5.25% หรือไม่ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่มีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ BoE ใช้ความระมัดระวังและชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นปี 2024 เป็นบวก โดยพบคำสั่งซื้อใหม่ที่แข็งแกร่งและการจ้างงานที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 6 เดือน แตกต่างกับตัวเลขภาคการผลิตที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากการหยุดชะงักในการขนส่งในทะเลแดง ขณะที่ BoE คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปี 2024 ท่ามกลางฮิว พิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE ที่ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับค่าจ้างและต้นทุนแรงงานในภาคการบริการที่เพิ่มขึ้น

ทางด้านกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรและ BoE เผชิญกับการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับการขายพันธบัตรรัฐบาลที่สะท้อนในงบดุลของธนาคารกลาง โดยนิติบัญญัติแนะนำให้พิจารณาผลประโยชน์ของผู้เสียภาษีในการตัดสินใจเกี่ยวกับการขายพันธบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ BoE เปลี่ยนจากการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปสู่การใช้ความเข้มงวดเชิงปริมาณ (QT) ซึ่งการถือครองพันธบัตรของ BoE ซึ่งครั้งหนึ่งเคยทำกำไร กำลังกลายเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ในด้านการเงินสาธารณะ และส่งผลกระทบต่อพื้นที่การคลังของรัฐบาล

ทางด้านการก่อสร้าง มุมมองเชิงบวกในหมู่บริษัทในสหราชอาณาจักรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการหยุดชะงักในทะเลแดงซึ่งส่งผลกระทบต่อการลำเลียงสินค้า โดยแนวโน้มของภาคการก่อสร้างได้สอดคล้องกับข้อมูลจาก Royal Institution of Chartered Surveyors ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้น

ทางด้านสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NIESR) คาดการณ์ว่ามาตรฐานการครองชีพของอังกฤษจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอยระดับเริ่มต้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ในขณะที่มาตรฐานการครองชีพโดยรวมคาดว่าจะเติบโต 1.9% ในปีงบประมาณ 2024/25 โดยครัวเรือนที่ยากจนอาจไม่สามารถฟื้นกำลังซื้อไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดได้จนถึงปี 2027

ทั้งนี้ ในปี 2024 อัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคคาดว่าจะอยู่ที่เฉลี่ย 2.2% ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 7.4% ในปี 2023 โดยการลดลงนี้มีสาเหตุมาจากราคาพลังงานที่ลดลง ซึ่งการประมาณการชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 2.2% จนถึงปี 2028

นอกจากนี้ ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยธนาคารลงเหลือ 3.25% ภายในปี 2026 ซึ่งเร็วกว่าถึงสองปี จากที่ NIESR เคยคาดการณ์ไว้ โดย NIESR เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับการลงทุนภาครัฐมากกว่าการลดภาษีก่อนการเลือกตั้งเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบสามเดือน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงรายงานการว่างงานที่แข็งแกร่ง และคำแถลงจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้ลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นและในอัตราที่รวดเร็ว โดยค่าเงินดอลลาร์คาดว่าจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้ ขณะที่นักเก็งกำไรสกุลเงินปรับลดสถานะการชอร์ตสกุลเงินดอลลาร์ลง โดยการตัดสินใจเชิงนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเมื่อเทียบกับธนาคารกลางอื่นๆ จะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดเส้นทางของเงินดอลลาร์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะค่อยๆอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วง 3, 6 และ 12 เดือนข้างหน้านี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2611, 1.2613, 1.2616

แนวรับสำคัญ : 1.2605, 1.2603, 1.2600                    

1H Outlook      

วิเคราะห์ GBP/USDที่มา: Investing.com                                  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2600 - 1.2605 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2605 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2611 และ SL ที่ประมาณ 1.2598 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2611 - 1.2616 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2619 และ SL ที่ประมาณ 1.2603 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2611 - 1.2616 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2611 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2603 และ SL ที่ประมาณ 1.2618 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2600 - 1.2605 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2596 และ SL ที่ประมาณ 1.2613 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 7, 2024 10:09AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.2596 1.26 1.2603 1.2608 1.2611 1.2616 1.2619
Fibonacci 1.26 1.2603 1.2605 1.2608 1.2611 1.2613 1.2616
Camarilla 1.2604 1.2605 1.2606 1.2608 1.2607 1.2608 1.2609
Woodie's 1.2596 1.26 1.2603 1.2608 1.2611 1.2616 1.2619
DeMark's - - 1.2602 1.2607 1.261 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES