บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567

Create at 8 months ago (Feb 19, 2024 10:56)

ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอย GDP ร่วง BOJ เผชิญข้อสงสัยถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างไม่คาดคิดเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยสูญเสียตำแหน่งประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลกรองให้แก่เยอรมนี ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนถึงจังหวะและเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) จะออกจากนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษที่ใช้มาอย่างยาวนานนับทศวรรษ ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเตือนถึงการหดตัวที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในไตรมาสปัจจุบัน จากอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน การบริโภคที่ซบเซา และการหยุดการผลิตในโตโยต้า มอเตอร์

ข้อมูลของรัฐบาลเปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของญี่ปุ่นลดลง 0.4% ต่อปีในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4% ถือเป็นการหดตัวติดต่อกันสองไตรมาส ซึ่งเป็นไปตามคำจำกัดความทางเทคนิคของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่ BOJ กำลังพิจารณาที่จะยุติอัตราดอกเบี้ยแบบติดลบภายในเดือนเมษายน โดยข้อมูลที่อ่อนตัวลงได้ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับการคาดการณ์ถึงค่าแรงที่เพิ่มขึ้นที่จะช่วยสนับสนุนการบริโภคและรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ประมาณกรอบเป้าหมาย 2%  

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่เป็นตัวเงิน หรือ Nominal GDP ของญี่ปุ่นในปี 2023 อยู่ที่ 4.21 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าของเยอรมนีที่ 4.46 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้ญี่ปุ่นมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนซึ่งส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งหนึ่ง ลดลง 0.2% และรายจ่ายฝ่ายทุนซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลไกการเติบโต ลดลง 0.1% โดยทั้งคู่หดตัวเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าบริษัทใหญ่ๆ จะวางแผนการใช้จ่ายด้านทุนจำนวนมาก แต่ก็คาดว่าจะพบความล่าช้าเกิดขึ้นเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและการขาดแคลนแรงงาน โดยข้อมูลคำสั่งซื้อเครื่องจักรล่าสุดบ่งชี้ว่ามีการหดตัวในเดือนพฤศจิกายน สร้างความสงสัยต่อความคาดหวังของ BOJ ถึงการลงทุนที่แข็งแกร่งที่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ BOJ ได้กำลังพิจารณาเผยแพร่ดัชนีใหม่ที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนแรงงานและอัตราเงินเฟ้อในภาคบริการ เพื่อเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อมากขึ้น

ขณะที่ผู้ว่าการคาซูโอะ อูเอดะ ซึ่งเชื่อมั่นเกี่ยวกับค่าจ้างที่สูงขึ้น เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการติดตามภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับผลการเจรจาค่าจ้างและการจัดการแรงงานประจำปีในช่วงกลางเดือนมีนาคม โดย BOJ ตั้งเป้าที่จะให้ค่าจ้างที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อจริงเพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ถึงเงื่อนไขทางการเงินที่ผ่อนคลายอย่างยั่งยืน แม้ว่าจะออกจากนโยบายติดลบแล้วก็ตาม

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวันศุกร์ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากราคาผู้ผลิตที่สูงกว่าที่คาดไว้ นำไปสู่ความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงอย่างน้อยกลางปี ขณะที่การสำรวจระบุถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์แบบหนึ่งปีที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานรายงานว่าราคาผู้ผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากต้นทุนบริการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ทำให้เกิดความกังวลในตลาดการเงินว่าอัตราเงินเฟ้ออาจฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่เริ่มเย็นตัวลง และอาจส่งผลต่อการประเมินความคาดหวังนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี แม้ว่าข้อมูลในวันพฤหัสบดีจะบ่งชี้ถึงราคาสินค้านำเข้าที่พุ่งสูงขึ้นในเดือนมกราคม แต่นักเศรษฐศาสตร์บางคนได้แนะนำไม่ให้สรุปก่อนเวลาอันควรว่าอัตราเงินเฟ้ออาจกำลังเร่งตัวขึ้น โดยชี้ให้เห็นว่าธุรกิจมักปรับขึ้นราคาในช่วงต้นปี และการปรับเพิ่มขึ้นในปีนี้อาจมากขึ้น เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามชดเชยต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปีที่แล้ว

ในขณะเดียวกัน โครงการก่อสร้างบ้านเดี่ยวในสหรัฐฯ ลดลงในเดือนมกราคม ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากสภาพอากาศที่รุนแรง แม้ว่าจะพบใบอนุญาตที่เพิ่มขึ้นสำหรับการก่อสร้างในอนาคตที่บ่งบอกถึงการฟื้นตัวที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงอาจส่งผลให้ค่าเงินเยนยังคงแนวโน้มทรงตัวในกรอบบน และถูกกดดันได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอาจปรับตัวขึ้นหรือลงได้มากขึ้น ตามรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญจากทั้งทางสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 150.17, 150.25, 150.38

แนวรับสำคัญ : 149.89, 149.81, 149.68                                            

5H Outlook                             

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: Investing.com         

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 149.69 – 149.89 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 149.89 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.18 และ SL ที่ประมาณ 149.59 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 150.17 – 150.37 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.51 และ SL ที่ประมาณ 149.79 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 150.17 – 150.37 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 150.17 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.82 และ SL ที่ประมาณ 150.47 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 149.69 – 149.89 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.47 และ SL ที่ประมาณ 150.27 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 19, 2024 10:07AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 149.47 149.68 149.82 150.03 150.18 150.38 150.53
Fibonacci 149.68 149.81 149.89 150.03 150.17 150.25 150.38
Camarilla 149.88 149.91 149.94 150.03 150.01 150.04 150.07
Woodie's 149.45 149.67 149.8 150.02 150.16 150.37 150.51
DeMark's - - 149.75 149.99 150.1 - -

Sources: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES