จีนยังคงเผชิญกับเศรษฐกิจที่หดตัว

เงินหยวนอ่อนค่าลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงกดดันด้านเงินฝืดอย่างต่อเนื่องในจีนทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะเริ่มใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อประคองเศรษฐกิจที่ถดถอยในตอนนี้ นอกจากนี้ ด้านนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าจีนมีแนวโน้มที่จะรักษาเสถียรภาพของค่าเงินเพื่อป้องกันความผันผวนของตลาดและสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าเพื่อให้ได้สิ้นค้าที่ราคาไม่ผันผวนมากนัก

อัตราเงินเฟ้อของจีนลดลง 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ซึ่งติดลบเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยราคาอาหารลดลงอย่างรวดเร็วที่ 5.9% ในขณะที่ต้นทุนเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถึงช่วงฤดูหนาวของจีน นอกจากนี้ราคาขนส่งที่ลดลงยังส่งผลให้ต้นทุนสินค้าต่างๆ ลดลงด้วย

Service PMI ของจีนลดลงเหลือ 52.7 ในเดือนมกราคม เนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ปรับตัวลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของการขยายกิจกรรมการบริการ 13 เดือนติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นและฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการจ้างเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ในด้านต้นทุนสินค้าพบว่าราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ, ค่าแรงและค่าขนส่งที่สูงขึ้น 

Manufacturing PMI เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50.8 สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 50.6 นับเป็นการเติบโตของกิจกรรมโรงงานเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยยอดขายต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนรวมไปถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทานเริ่มดีมากขึ้น ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่มีการเติบโตที่ลดลง ด้านตลาดแรงงานพบว่าบริษัทต่างๆ ได้ลดจำนวนพนักงานลงอีกครั้ง แต่การลดพนักงานเริ่มมีแนวโน้มที่ลดลง ทั้งนี้ ต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสวนทางกับราคาขายที่ลดลงเนื่องจากความพยายามในการรักษาลูกค้าจากการแข่งขันที่รุนแรง

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนลดลง 8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลงสู่ 1.13 ล้านล้านหยวนหรือ 157.1 พันล้านดอลลาร์ ส่งสัญญาณว่านักลงทุนต่างชาติยังไม่กลับมายังจีนอย่างเต็มกำลัง โดยเงินทุนจากต่างประเทศลดลงในภาคการผลิต 1.8%  ในทางกลับกัน มีเงินลงทุนเพิ่มในภาคการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 6.5% โดยลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 32.1% และลงทุนในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 12.2% โดยการลงทุนส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากประเทศฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 80%

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลงเหลือ 3.219 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม ลดลงจากเดือนธันวาคมที่ 3.238 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ทำให้สินทรัพย์เมื่อเทียบเป็นดอลาร์มีมูลค่าลดลง ทั้งนี้ ปริมาณทองคำสำรองของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 72.19 ล้านทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.1988, 7.1993, 7.2001

แนวรับสำคัญ: 7.1974, 7.1967, 7.1961

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.1967 - 7.1974 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.1974 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1993 และ SL ที่ประมาณ 7.1961 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 19 กุมภาพันธ์ 2567 20:38 น. GMT+7