เศรษฐกิจของอินเดียยังคงแข็งแกร่ง

เงินรูปีของอินเดียแข็งขึ้นค่าเกิน 82.9 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจาก Composite PMI ของประเทศที่เพิ่มสูงกว่า 60 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเติบโตของไม่ว่าจะเป็นในภาคบริการหรือภาคการผลิตก็ตาม นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนจากต่างประเทศที่สามารถสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานได้อีกด้วย

ทั้งนี้ การเติบโตของ GDP ที่ 7.3% ในปี 2023 ยังคงเป็นจุดเด่นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่

และถือว่าทำได้ดีกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักอื่นๆ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มทางเลือกของนโยบายทางการเงินให้กับ RBI โดยทางธนาคารกลางได้ส่งสัญญาณว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้และเลื่อนนโยบายการลดปริมาณเงินในระบบออกไปก่อน แสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายมองว่าปริมาณเงินที่มากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีต่ำกว่า 7.1% และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางอุปสงค์จากต่างประเทศที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่งของประเทศยังช่วยเพิ่มการลงทุนจากต่างประเทศในสินทรัพย์ตราสารหนี้ของอินเดีย ทั้งของรัฐบาลและเอกชน ข้อมูลล่าสุดจาก Clearing Corp แสดงให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติซื้อตราสารหนี้ของอินเดียไปกว่า 350 พันล้านรูปีในปีนี้

Services PMI เพิ่มขึ้นเป็น 62 ในเดือนกุมภาพันธ์ จาก 61.8 ในเดือนก่อนหน้าบ่งบอกถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของภาคบริการนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมในปีที่ผ่านมา โดยคำสั่งซื้อใหม่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศมีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจกลายเป็นบวกจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น

Manufacturing PMI เพิ่มขึ้นเป็น 56.7 ในเดือนกุมภาพันธ์ จาก 56.5 ในเดือนก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งของในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นยังบ่งบอกถึงคำสั่งซื้อใหม่ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าต้นทุนสินค้าจะเพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบและต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น แต่ความสามารถในการเติบโตที่รวดเร็วและความสามารถในการทำกำไรที่สูง ทำให้บริษัทต่างๆ ยังไม่ถูกกดดันจากต้นทุนมากนัก

อินเดียขาดดุลการค้า 17.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม ต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะขาดดุล 20 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่าการนำเข้า โดยที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 36.92 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าเพิ่มขึ้นที่3% เป็น 54.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการค้าของอินเดียได้เตือนว่าการขนส่งที่ยืดเยื้อจากวิกฤตทะเลแดงอาจส่งผลให้ราคาสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนข้างหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 82.951, 83.026, 83.07

แนวรับสำคัญ: 82.833, 82.788, 82.714

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 82.788 - 82.833 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 82.833 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.026 และ SL ที่ประมาณ 82.714 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 26 กุมภาพันธ์ 2567 16:58 น. GMT+7