รัฐบาลจีนยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนเศรษฐกิจ
เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ไว้ที่ประมาณ 5% ในปี 2024 นอกจากนี้ยังตั้งเป้าหมายอัตราการว่างงานไว้ที่ประมาณ 5.5% และคาดว่าจะมีการสร้างตำแหน่งงานใหม่ถึง 12 ล้านตำแหน่ง และ คาดการณ์ว่าตัวเลข CPI เพิ่มขึ้นประมาณ 3% ในขณะเดียวกัน การสำรวจภาคเอกชนแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของภาคบริการของจีนชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ด้านนักลงทุนกำลังสัญญาณเพิ่มเติมจากการประชุมที่กำลังเกิดขึ้น โดยมีความคาดหวังว่าทางรัฐบาลจีนและธนาคารกลางจะมีนโยบายที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น
ธนาคารประชาชนจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดีระยะเวลา 5 ปีลง 25 จุดเหลือ 3.95% ในเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากที่สุดนับตั้งแต่มีการประกาศใช้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในปี 2019 ด้านธนาคารกลางยังลดข้อกำหนดการสำรองเงินทุนของธนาคารลงอีก 50 bps เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งจะช่วยให้สามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น
ตัวเลขสินเชื่อใหม่ของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 4.92 ล้านล้านหยวนในเดือนมกราคม สูงกว่าการคาดการณ์ที่ 4.5 ล้านล้านหยวน สินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนที่ต้องการพยุงเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อภาคครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อจำนองเพิ่มขึ้นเป็น 980.1 พันล้านหยวน และสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้นเป็น 3.86 ล้านล้านหยวน นอกจากนี้ ยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นเป็น 10.4%
รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ที่ประมาณ 5% ในปี 2024 ขณะเดียวกัน รัฐบาลตั้งการขาดดุลการคลังต่อ GDP อยู่ที่ 3% ซึ่งเป็นการปรับลดลงจาก 3.8% ในขณะที่รายรับทางการคลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% นอกจากนี้ รัฐบาลยังประกาศแผนการออกพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวพิเศษมูลค่า 1 ล้านล้านหยวน ภายในปีนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของจีนลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 2.35% เนื่องจากรัฐบาลตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5% แต่นักลงทุนยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะมีการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ยังคงมีปัญหาด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ถดถอยยาวนาน, แรงกดดันจากภาวะเงินฝืด, ความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์กับชาติตะวันตกและสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากสำหรับรัฐบาลจีน
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.1998, 7.2004, 7.2013
แนวรับสำคัญ: 7.1983, 7.1974, 7.1969
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.1974 - 7.1983 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.1983 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2004 และ SL ที่ประมาณ 7.1969 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1998 - 7.2004 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2013 และ SL ที่ประมาณ 7.1974 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.1998 - 7.2004 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.1998 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1974 และ SL ที่ประมาณ 7.2013 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.1974 - 7.1983 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.1969 และ SL ที่ประมาณ 7.2004 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 6 มีนาคม 2567 15:26 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 7.1969 | 7.1974 | 7.1983 | 7.1989 | 7.1998 | 7.2004 | 7.2013 |
Fibonacci | 7.1974 | 7.198 | 7.1983 | 7.1989 | 7.1995 | 7.1998 | 7.2004 |
Camarilla | 7.199 | 7.1991 | 7.1992 | 7.1989 | 7.1995 | 7.1996 | 7.1997 |
Woodie's | 7.1971 | 7.1975 | 7.1985 | 7.199 | 7.2 | 7.2005 | 7.2015 |
DeMark's | - | - | 7.1986 | 7.199 | 7.2001 | - | - |