GDP ของออสเตรเลียขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาด
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความคาดหวังจากนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าธนาคารกลางอื่นๆ นอกจากนี้ GDP ที่ขยายตัวน้อยกว่าที่คาด ถือเป็นการสนับสนุนว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ในขณะนี้ตลาดคาดว่าจะมีโอกาสเกือบ 90% ที่ RBA จะลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคมและเป็นการลดลงมากกว่า 45 bps
เศรษฐกิจออสเตรเลียขยายตัว 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสในไตรมาสที่ 4 ปี 2023 ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 0.3% เนื่องจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการจำกัดค่าใช้จ่ายต่างๆ และเน้นใช้จ่ายในสินค้าที่จำเป็นเท่านั้น ในขณะเดียวกัน การใช้จ่ายภาครัฐกลับมาชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งดูได้จากการลงทุนภายในประเทศที่ลดลง ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชนลดลงเนื่องจากต้นทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น
มูลค่าสินเชื่อบ้านในออสเตรเลียลดลง 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนเป็น 15.91 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนมกราคม โดยการซื้อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่แล้วยังคงลดลง 5.2% ในขณะที่การซื้อที่อยู่อาศัยที่ที่สร้างขึ้นใหม่ลดลง 1.0% เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงการซื้อที่ลดลงในภาคอสังหาริมทรัพย์และการกู้ยืมที่ลดลงด้วย
การประกาศรับสมัครงานในออสเตรเลียลดลง 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้นจาก 3.4% ในเดือนก่อนหน้า โดยตลาดแรงงานเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวลง เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวด้วยเช่นเดียวกัน โดย Madeline Dunk นักเศรษฐศาสตร์จาก ANZ ให้ความคิดเห็นว่า การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานแสดงให้เห็นว่าอัตราการว่างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากจำนวนงานเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง
กำไรของธุรกิจในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 1.8% แม้ว่าธุรกิจส่วนใหญ่จะมีกำไรเพิ่มมากขึ้น แต่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการผลิตจะมีกำไรที่ทรงตัวหลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในไตรมาสที่ 3 ในขณะเดียวกัน กำไรลดลงในกลุ่มค้าส่ง, ค้าปลีกและการปล่อยเช่าที่พัก
PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 47.8 ซึ่งชี้ว่าภาคส่วนนี้ยังคงมีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยผลผลิตที่ทำได้, คำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานยังคงลดลง บ่งบอกถึงการชะลอตัวของอุตสาหกรรมการผลิตในช่วงต้นปี 2024 นอกจากนี้ ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น ทำให้แรงกดดันด้านค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้เกิดการผลักดันราคาไปยังผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีก ทั้งนี้ ธุรกิจต่างๆ เริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นจากอุปสงค์ที่กำลังฟื้นตัว
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.5162, 1.5176, 1.5204
แนวรับสำคัญ: 1.512, 1.5092, 1.5077
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.5092 - 1.512 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.512 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5176 และ SL ที่ประมาณ 1.5077 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.5162 - 1.5176 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5204 และ SL ที่ประมาณ 1.5092 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.5162 - 1.5176 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.5162 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5092 และ SL ที่ประมาณ 1.5204 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.5092 - 1.512 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5077 และ SL ที่ประมาณ 1.5176 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 11 มีนาคม 2567 21:35 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 1.5077 | 1.5092 | 1.512 | 1.5134 | 1.5162 | 1.5176 | 1.5204 |
Fibonacci | 1.5092 | 1.5108 | 1.5118 | 1.5134 | 1.515 | 1.516 | 1.5176 |
Camarilla | 1.5137 | 1.5141 | 1.5144 | 1.5134 | 1.5152 | 1.5156 | 1.516 |
Woodie's | 1.5085 | 1.5096 | 1.5128 | 1.5138 | 1.517 | 1.518 | 1.5212 |
DeMark's | - | - | 1.5127 | 1.5138 | 1.517 | - | - |