จีนสามารถรอดพ้นภาวะเงินฝืดได้เป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปี

เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้น เนื่องจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนสามารถรอดพ้นภาวะเงินฝืดได้เป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนที่เปราะบางทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีนยังสามารถผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมได้อีก โดย ผาน กงเซิง ผู้ว่าการธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People's Bank of China) ได้บอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม

ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกุมภาพันธ์ สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 0.3% ถือเป็นการฟื้นตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเมื่อปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้ราคาอาหารลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ราคาเนื้อหมูและผักสดเพิ่มสูงขึ้น ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 1.2% จาก 0.4%  นับเป็นการเพิ่มขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้น 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.226 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แต่มีข้อมูลประกาศว่าจีนยังคงซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยจีนถือครองทองคำจำนวน 72.58 ล้านทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้นจาก 72.19 ล้านออนซ์ ในเดือนมกราคม ส่งผลให้มูลค่าทองคำสำรองของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 148.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคาบ้านใหม่ของจีนลดลง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม แม้ว่าจะมีการสนับสนุนจากทางรัฐบาลเพื่อลดผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่เศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบางและอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัวลง ทำให้ราคาบ้านใหม่ยังคงลดลงต่อเนื่องและเป็นการลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ของปี 2015

รัฐบาลจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตของ GDP ไว้ที่ประมาณ 5% ในปี 2024 โดยที่รัฐบาลตั้งการขาดดุลการคลังต่อ GDP อยู่ที่ 3% ลดลงจาก 3.8% โดยการใช้จ่ายทางการคลังตั้งเป้าเพิ่มขึ้น 4% ในขณะที่รายรับทางการคลังคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3% บ่งชี้ให้เห็นว่าจีนอาจสามารถสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากการเพิ่มเงินในระบบเศรษฐกิจให้มีสภาพคล่องมากขึ้นและสามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นด้วย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีทรงตัวเหนือ 2.3% เนื่องจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อล่าสุด นอกจากนี้ การที่จีนตั้งเป้า GDP ให้เติบโต 5% เป็นการแสดงให้ถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลและสามารถผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนได้อีกด้วย

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.1765, 7.18, 7.1819

แนวรับสำคัญ: 7.171, 7.1692, 7.1656

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.1692 - 7.171 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.171 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.18 และ SL ที่ประมาณ 7.1656 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 12 มีนาคม 2567 19:02 น. GMT+7