ปอนด์ร่วงลงท่ามกลางรายงาน GDP การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก BoE ยังคงคลุมเครือ

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากการเปิดเผยตัวเลข GDP กระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มการเดิมพันเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน แม้โอกาสที่จะพบการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอนคาดว่าจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงเดือนสิงหาคม

ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าจะยังคงความคลุมเครือเกี่ยวกับช่วงเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะถึง โดยรอสัญญาณที่ชัดเจนยิ่งขึ้นถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่จะผ่อนคลายลงในระบบเศรษฐกิจ ขณะที่คำกล่าวของผู้ว่าการธนาคารแอนดรูว์ เบลีย์เมื่อเร็วๆ นี้บ่งบอกถึงมุมมองเชิงบวกท่ามกลางความระมัดระวัง และชี้ให้เห็นว่ายังสามารถจัดการกับอัตราเงินเฟ้อการคาดการณ์ได้ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของค่าจ้างที่เริ่มลดน้อยลง อย่างไรก็ตาม เบลีย์ยังคงไม่ได้ส่งสัญญาณเร่งด่วนในการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารจากระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนในข้อมูลตลาดแรงงานและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

อย่างไรก็ดี แม้ว่า BoE คาดการณ์ว่าการเติบโตของราคาจะชะลอตัวลงและบรรลุเป้าหมายที่ 2% ได้ในไตรมาสที่สอง แต่ก็คาดว่าเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 3% ในช่วงหลังของปี 2024 โดยธนาคารยังคงกังวลเกี่ยวกับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่าจ้างขั้นต่ำและค่าจ้างที่เป็นจำนวนเงินอื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเสี่ยงต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ หลังจากเศรษฐกิจอังกฤษแสดงสัญญาณฟื้นตัวจากภาวะถดถอยในช่วงสั้นๆ มาตรการลดภาษีล่าสุดที่ประกาศโดยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เจเรมี ฮันต์ ได้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับปานกลางแก่ผู้บริโภค และอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจก่อนการเลือกตั้งที่คาดไว้ในปี 2024

โดยแม้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะพบการเติบโตในเดือนมกราคมหลังจากภาวะถดถอยระดับตื้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 แต่ก็ยังคงความไม่แน่นอนว่าเศรษฐกิจจะสามารถฟื้นตัวได้เต็มที่หรือไม่ เมื่อพิจารณาถึงคำจำกัดความทางเทคนิคของภาวะถดถอยที่เกิดขึ้นในไตรมาสก่อนๆ

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรชะลอตัวโดยได้รับอิทธิพลจากปัจจัยต่างๆ อย่าง ต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงของธนาคารกลางอังกฤษ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ได้บ่งชี้ถึงความกดดันต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่ลดลง และอาจส่งผลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น

โดยแม้ว่าการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสาธารณะจะอ่อนตัวลง แต่ความไม่แน่นอนของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงมีอยู่ เนื่องจากความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ BoE ยังเป็นที่รอคอยท่ามกลางการคาดการณ์ว่าต้นทุนการกู้ยืมจะยังคงอยู่ในระดับสูงจนถึงเดือนสิงหาคม ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก ECB และ Fed ขณะที่ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ่านค่าเงินเฟ้อ อาจมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์ของตลาดในนาทีสุดท้าย

ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ยังคงค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พบการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐฯ มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยผลผลิตเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากลดลงในเดือนก่อน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อภาคการผลิต ซึ่งได้เผชิญกับความท้าทายมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง

ทางด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนมีนาคม แม้ว่านักลงทุนจะปรับการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตตามข้อมูลราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ร้อนแรงเกินคาด ในขณะที่ตลาดคาดการณ์ถึงแนวโน้มที่ลดลงของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ความสนใจล่าสุดจึงอยู่ที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อประเมินข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดยืนของธนาคารกลาง ความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ โดยเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงแสดงทัศนคติเชิงบวกท่ามกลางการใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อ และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงิน จึงคาดว่าอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อาจยังคงมีแนวโน้มถูกกดดันได้เล็กน้อยในช่วงนี้ โดยอาจพบการซื้อขายขึ้นลงในกรอบบนได้จากอัตราผลตอบแทนของสองประเทศเศรษฐกิจที่ไม่ต่างกันมาก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2736, 1.2739, 1.2742

แนวรับสำคัญ : 1.2730, 1.2727, 1.2724              

5H Outlook                          

ที่มา: Investing.com                                   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2720 - 1.2730 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2730ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2737 และ SL ที่ประมาณ 1.2715 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2736 - 1.2746 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2755 และ SL ที่ประมาณ 1.2725 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2736 - 1.2746 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2736 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2728 และ SL ที่ประมาณ 1.2751 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2720 - 1.2730 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2710 และ SL ที่ประมาณ 1.2741 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 18, 2024 10:28AM GMT+7