มุมมองเชิงบวกภาคเทคโนโลยีซบเซา ตลาดจับตามองการประชุมเฟด

ในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ การซื้อขายช่วงเย็นในวันจันทร์พบการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะถึง บดบังแนวโน้มเชิงบวกซึ่งได้รับแรงหนุนจากการพัฒนาในภาคเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขณะที่แม้ว่าดัชนี Nasdaq จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาการซื้อขายปกติ แต่ช่วงปิดเซสชั่นพบการกลับตัวของหุ้นเทคโนโลยีหลัก ๆ รวมถึง NVIDIA Corporation แม้จะเพิ่งเปิดตัวชิป AI รุ่นล่าสุดในชื่อ Blackwell ที่ถูกจับตามองก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ ดัชนีสำคัญของวอลล์สตรีทปิดตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนหลักจากหุ้นเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัท Alphabet Inc. ซึ่งพุ่งขึ้น 4.6% หลังการรายงานความร่วมมือที่อาจเกิดขึ้นกับ Apple Inc. เพื่อรวม Gemini AI ของ Google เข้ากับ iPhone ขณะที่ดัชนี S&P 500, Nasdaq Composite และ Dow Jones Industrial Average ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย Tesla Inc. เพิ่มขึ้น 6% หลังมีแผนที่จะปรับขึ้นราคาสำหรับรถในยุโรปบางรุ่น ก่อนที่ราคาจะร่วงลงในช่วงปิดการซื้อขายท่ามกลางความกังวลของตลาดโดยรวมเกี่ยวกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย

โดยความกังวลเกี่ยวกับการสงวนท่าทีแบบเข้มงวดจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ท่ามกลางการคาดการณ์ถึงการคงระดับอัตรา ได้ส่งผลให้ตลาดวอลล์สตรีทใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงแนวโน้มที่สูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พบการซื้อคืนหุ้นของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ นำโดย Apple โดยแม้ว่าตัวเลขการซื้อคืนโดยรวมในปี 2023 จะลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ ดัชนี Philadelphia Semiconductor ปิดท้ายวันทรงตัว ในขณะที่กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีของดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยที่ 0.5% อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น อสังหาริมทรัพย์และการดูแลสุขภาพ พบการปรับตัวลดลงเล็กน้อย

ทั้งนี้ ตามการวิเคราะห์จาก Morgan Stanley แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐจะพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่เพิ่มขึ้น แต่ตลาดหุ้นโดยรวมอาจเผชิญความผันผวนมากขึ้นหากอัตราผลตอบแทนยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป โดยเน้นย้ำว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่สูงถึง 4.35% จะเป็นระดับสำคัญที่ต้องจับตามอง ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงความอ่อนไหวของตลาดหุ้นต่ออัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

โดยในสัปดาห์นี้ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง รวมถึงการประชุมของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นและธนาคารแห่งอังกฤษ จะเป็นจุดสนใจของตลาด ขณะที่นักลงทุนต่างเตรียมพร้อมรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดยืนของธนาคารกลางเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และอัตราเงินเฟ้อ ท่ามกลางข้อมูลราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคในสหรัฐฯ ล่าสุดที่ยังร้อนแรงเกินคาด

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 38804.3, 38818.4, 38841.1

แนวรับสำคัญ : 38758.9, 38744.8, 38722.1

5H Outlook  

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 38708.9 - 38758.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 38758.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38804.5 และ SL ที่ประมาณ 38684.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 38804.3 - 38854.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38870.0 และ SL ที่ประมาณ 38734.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 38804.3 - 38854.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 38804.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38745.0 และ SL ที่ประมาณ 38879.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 38708.9 - 38758.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38678.0 และ SL ที่ประมาณ 38829.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 19, 2024 09:27AM GMT+7