BoC พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นท่ามกลางความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา (BoC) พิจารณาถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมครั้งล่าสุด บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากภาวะเศรษฐกิจสอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยการแถลงนี้ซึ่งเปิดเผยในมติการประชุมก่อนการประกาศการใช้นโยบายในวันที่ 6 มีนาคม นับเป็นครั้งแรกที่ BoC ระบุไทม์ไลน์สำหรับการปรับอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจากระดับสูงสุดในรอบ 22 ปีที่ 5% ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ BoC คาดการณ์การเติบโตที่อ่อนแอในไตรมาสแรก โดยคาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นจนถึงเกือบ 1% ภายในสิ้นปีนี้ ควบคู่ไปกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ที่ประมาณ 3% ในครึ่งแรกของปี 2024 ก่อนที่จะผ่อนคลายลงเหลือ 2.5% ในปลายปีนี้อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อของแคนาดาได้ปรับตัวลดลงเหลือ 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือน โดยสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของราคาอาหารที่ลดลง และราคาบริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตที่ลดลง
นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองต่อวิกฤตความสามารถในการจ่ายที่อยู่อาศัย งบประมาณของรัฐบาลกลางของแคนาดาซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในเดือนหน้า มีแนวโน้มที่จะจัดสรรเงินทุนจำนวนมากให้กับโครงการริเริ่มด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งวิกฤตครั้งนี้มีสาเหตุมาจากจำนวนผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแซงหน้าจำนวนที่อยู่อาศัยปัจจุบัน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น รวมถึงค่าเช่าและค่าจำนองที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี อัตราดอกเบี้ยที่อาจลดลง คาดว่าจะเพิ่มการแข่งขันที่รุนแรงในหมู่ธนาคารแคนาดาสำหรับเงินฝาก โดยการเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะเปลี่ยนเส้นทางเงินทุนจากผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูงไปสู่การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ก่อให้เกิดความท้าทายสำหรับธนาคารที่ต้องพึ่งพาเงินฝากของลูกค้าในการระดมทุน โดยธนาคารแคนาดาได้ใช้มาตรการเพื่อรักษาผลกำไรท่ามกลางการกันเงินสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารายได้ของธนาคารอาจลดลงตามมาด้วยการเติบโตในปลายปีนี้
ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการรับรู้ของนักลงทุนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่สูงและความสามารถในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยความเชื่อมั่นของตลาดที่สนับสนุนเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงเสริมจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิดของธนาคารแห่งชาติสวิส ตอกย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของดอลลาร์ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ขณะที่ตัวชี้วัดเชิงบวกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงการขอรับสวัสดิการเงินทดแทนกรณีว่างงานใหม่ที่ลดลง และยอดขายบ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอกย้ำถึงผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศในไตรมาสแรก
โดยแม้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจสหรัฐฯ จะทรงตัว แต่ยังคงพบสัญญาณของอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น จากราคาที่สูงขึ้นในภาคส่วนต่างๆ ขณะที่ภาคการผลิตแตะระดับสูงสุดในรอบ 21 เดือน ท่ามกลางภาคบริการที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย โดยแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐอเมริกายังคงเป็นบวก และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้จะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ในขณะเดียวกัน ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐฯ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งและอุปทานของยานพาหนะที่ดีขึ้น แม้จะมีความท้าทายในห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้นำไปสู่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่าย ส่งผลให้มีการออกส่วนลดจำนวนมากและปริมาณการขายที่สูงขึ้นมากกว่าอัตรากำไร
ในขณะเดียวกัน การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นผู้ส่งออกสุทธิน้ำมันดิบและเชื้อเพลิง แม้ว่าการนำเข้าสินค้าจะยังคงมีมากกว่าการส่งออกก็ตาม
ทางด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ เลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ย และยืนยันถึงความตั้งใจที่จะลดอัตรา 0.25 จุดเป็นจำนวนสามครั้งภายในสิ้นปี 2024 ท่ามกลางแรงผ่อนคลายของเงินเฟ้อไปสู่กรอบเป้าหมายที่เป็นไปอย่างช้าๆ โดยเฟดยังคงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะพบการขยายตัว 2.1% ในปี 2024
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงความกังวลเกี่ยวกับการกลับตัวของเส้นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้แบบดั้งเดิมของภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังคงไม่แสดงสัญญาณการหดตัว โดยการกลับตัวของเส้นอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระหว่างพันธบัตรอายุ 2 ปีถึง 10 ปี บ่งชี้ถึงภาวะถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่สังเกตได้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม 2022 และสูงกว่าสถิติก่อนหน้านี้ในปี 1978
ทั้งนี้ การกลับตัวของเส้นอัตราดังกล่าวหรือที่เรียกว่าการกลับตัวแบบ 2/10 ซึ่งในอดีตได้เกิดขึ้นก่อนภาวะเศรษฐกิจถดถอย บ่งชี้ถึงอัตราผลตอบแทนระยะสั้นที่สูงขึ้น ท่ามกลางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ ควบคู่ไปกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และโดยทั่วไปแล้วเส้นอัตราผลตอบแทนที่กลับตัวจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยเป็นการเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมและลดการลงทุนระยะยาว ซึ่งถึงแม้จะพบสัญญาณดังกล่าว แต่ความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ก็ได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 80 จุดในปีนี้ ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 160 จุดพื้นฐาน จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล USD/CAD คาดว่าอาจยังคงซื้อขายทรงตัวในกรอบแคบๆ ได้ จากผลตอบแทนของระหว่างสองประเทศที่ไม่ต่างกันมาก โดยอาจยังคงพบแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.3564, 1.3566, 1.3569
แนวรับสำคัญ : 1.3558, 1.3556, 1.3553
30Min Outlook
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3553 - 1.3558 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3558 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3566 และ SL ที่ประมาณ 1.3551 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3564 - 1.3569 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3573 และ SL ที่ประมาณ 1.3556 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3564 - 1.3569 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3564 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3558 และ SL ที่ประมาณ 1.3571 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3553 - 1.3558 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3550 และ SL ที่ประมาณ 1.3566 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Mar 22, 2024 10:29AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.355 | 1.3553 | 1.3558 | 1.3561 | 1.3566 | 1.3569 | 1.3573 |
Fibonacci | 1.3553 | 1.3556 | 1.3558 | 1.3561 | 1.3564 | 1.3566 | 1.3569 |
Camarilla | 1.3559 | 1.356 | 1.3561 | 1.3561 | 1.3562 | 1.3563 | 1.3564 |
Woodie's | 1.355 | 1.3553 | 1.3558 | 1.3561 | 1.3566 | 1.3569 | 1.3573 |
DeMark's | - | - | 1.3559 | 1.3561 | 1.3567 | - | - |
Sources: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ