เศรษฐกิจแคนาดาเติบโตเกินความคาดหมาย

เศรษฐกิจของแคนาดพบการเติบโตที่แข็งแกร่งในเดือนมกราคม เกินความคาดหมายและบ่งชี้ถึงการเริ่มต้นปีที่มีความหวัง โดยสำนักสถิติของแคนาดารายงานการขยายตัว 0.6% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบปี โดยได้แรงหนุนจากภาคส่วนต่างๆ เช่น การบริการด้านการศึกษา รวมถึงจากการได้รับผลประโยชน์จากการนัดหยุดงานของภาครัฐในรัฐควิเบกที่คลี่คลาย ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์และค่าเช่าที่อยู่อาศัยยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 รวมถึงภาคอุตสาหกรรมการบริการที่ขยายตัว 0.7% และอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่ขยายตัว 0.2%

ขณะเดียวกัน การประมาณการเบื้องต้นสำหรับเดือนกุมภาพันธ์ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวก โดยคาดการณ์การเติบโตที่ 0.4% ซึ่งนำโดยอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เหมืองหิน และการขุดน้ำมันและก๊าซเป็นหลัก ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อในแคนาดาที่ลดลงอย่างไม่คาดคิดมาอยู่ที่ 2.8% ในเดือนกุมภาพันธ์ และเป็นอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อธนาคารแห่งประเทศแคนาดา (BoC) ในการดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยก่อนกำหนด

ทั้งนี้ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดแสดงให้เห็นสัญญาณของการปรับตัวในด้านการผลิตและการค้าส่งของแคนาดา โดยยอดขายโรงงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากแรงหนุนหลักจากกลุ่มย่อยปิโตรเลียมและถ่านหิน ในขณะที่การค้าส่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 0.8% ในด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ ยานยนต์ และชิ้นส่วน อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกหดตัวเล็กน้อยในเดือนมกราคม จากราคาสินค้าที่ลดลงและยอดขายยานยนต์และชิ้นส่วนที่ลดลง

BoC เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับธุรกิจในการเพิ่มการลงทุนเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ การสำรวจของ BoC เมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของบริษัทในแคนาดาปรับตัวดีขึ้น โดยหลายบริษัทคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจของแคนาดาจะไม่เผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะเกิน 3% ในอีกสองปีข้างหน้า

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของตลาดจะยังคงไม่แน่นอนจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อและ GDP ล่าสุด แต่ความผันผวนต่อเศรษฐกิจ ยังคงอยู่จากผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังนี้ได้นำไปสู่การคาดาการณ์ที่ลดลงเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ใกล้จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน โดย BoC พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น การเติบโตของค่าจ้างที่ซบเซา แม้ว่าจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง และการขาดแคลนแรงงานที่ลดลง ขณะที่การสำรวจอีกชุดสะท้อนถึงความคาดหวังของผู้บริโภค บ่งชี้ให้เห็นว่าชาวแคนาดาเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง และไม่คาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในระยะเวลาอันใกล้นี้

ขณะเดียวกัน เพื่อแก้ไขวิกฤติความสามารถในการจ่ายที่อยู่อาศัย นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ได้ประกาศจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่อาศัยของแคนาดามูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์แคนาดา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเร่งการก่อสร้างและปรับปรุงที่อยู่อาศัย ซึ่งอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงได้ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าเช่าพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยรุนแรงขึ้น และกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่สำคัญ

อย่างไรก็ดี การประกาศเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะมีขึ้นของ BoC ในวันที่ 10 เมษายนจะตรงกับการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหม่ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า BoC อาจดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซาของแคนาดาและอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงเศรษฐกิจของแคนาดาที่มีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยเป็นพิเศษ เนื่องจากระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงที่สุดในกลุ่มประเทศ G7

ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เผชิญกับการอ่อนค่าในวันอังคารหลังจากแตะจุดสูงสุดล่าสุดในรอบเกือบห้าเดือน ซึ่งการลดลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการเผยแพร่รายงานตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ ที่ยังคงทรงตัวในระดับที่สูงตลอดเดือนกุมภาพันธ์

ในขณะเดียวกัน ภาคการผลิตของสหรัฐฯ พบการเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 1-1/2 ปีในเดือนมีนาคม จากด้านการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การจ้างงานในโรงงานยังคงลดลงท่ามกลางกิจกรรมการเลิกจ้างและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นต่อราคาวัตถุดิบ โดยการสำรวจของสถาบันการจัดการอุปทาน (ISM) ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มเชิงบวกในการฟื้นตัวของภาคส่วนนี้ แม้ว่าจะยังคงมีความเสี่ยงจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นก็ตาม

ทั้งนี้ แม้ว่าภาคการผลิตที่ฟื้นตัวจะส่งสัญญาณการเติบโตที่มีศักยภาพต่อเศรษฐกิจ แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อสินค้าที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูง ซึ่งอาจทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าช้า ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เน้นย้ำถึงการใช้แนวทางที่ระมัดระวังเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล USD/CAD คาดว่าจะยังคงทรงตัวในกรอบบนได้อย่างต่อเนื่อง จากผลตอบแทนของระหว่างสองประเทศที่ไม่ต่างกันมาก โดยอาจยังคงพบแนวโน้มการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3574, 1.3576, 1.3578

แนวรับสำคัญ : 1.3570, 1.3568, 1.3566                                                                         

1H Outlook

ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3565 - 1.3570 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3570 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3575 และ SL ที่ประมาณ 1.3563 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3574 - 1.3579 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3584 และ SL ที่ประมาณ 1.3568 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3574 - 1.3579 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3574 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3569 และ SL ที่ประมาณ 1.3581 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3565 - 1.3570 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3558 และ SL ที่ประมาณ 1.3576 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 3, 2024 09:25AM GMT+7