ราคาข้าวโพดสหรัฐฯ ลดลง ตลาดกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศแห้งแล้งทางตอนใต้ของบราซิล

ราคาข้าวโพดปรับตัวลดลงเนื่องจากแรงกดดันจากการขายกองทุนและทางเทคนิค ความคืบหน้าในการปลูกในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ประมาณ 2% ขณะที่บางภูมิภาคเผชิญกับความล่าช้าของฝน ท่ามกลางสภาพความแห้งแล้งทางตอนใต้ของบราซิลที่ส่งผลจำกัดผลผลิตข้าวโพดครั้งที่สอง หลังจากที่มีรายงานว่าการเพาะปลูกพืชครั้งที่สองใกล้เสร็จสมบูรณ์ โดยมีการคาดการณ์ว่าผลผลิตจะลดลงเมื่อเทียบกับการประมาณการครั้งก่อน

ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดได้พุ่งสูงขึ้น หลังจาก USDA รายงานผลผลิตข้าวโพดคงคลังและความตั้งใจของเกษตรกรในการเพาะปลูกข้าวโพดต่ำกว่าที่คาด โดยรายงานดังกล่าวจาก USDA ซึ่งระบุถึงการลดการปลูกข้าวโพดในปีที่กำลังจะมาถึง ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนความเชื่อมั่นของตลาด ขณะที่ผู้ค้าติดตามความต้องการข้าวโพดอย่างใกล้ชิด โดยสังเกตถึงความต้องการที่แข็งแกร่งจากราคาข้าวโพดที่ลดต่ำ โดยแม้จะพบอุปทานที่เพียงพอและรายงานอุปสงค์ที่จำกัด แต่ความเชื่อมั่นของตลาดยังคงเป็นบวก โดยคาดว่าจะพบการฟื้นตัวในระยะสั้น

ทางด้านในประเทศจีน เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ขอให้ผู้ค้าควบคุมและจำกัดการจัดส่งข้าวโพดต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาภาวะอุปทานล้นตลาดในประเทศและสนับสนุนราคาในท้องถิ่น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาในตลาดโลกเนื่องจากจีนมีสถานะเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ขณะที่แม้ว่าสัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าของจีนจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ตลาดยังคงกังวลถึงผลกระทบของข้อจำกัดการนำเข้าที่มีต่อราคาในตลาดโลก

ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจสำหรับผู้ผลิตข้าวโพดในปี 2023 ได้รับการส่งเสริมอย่างมากจากการส่งออกเนื้อวัวและเนื้อหมู ซึ่งมีมูลค่าถึง 18.1 พันล้านดอลลาร์ การศึกษาโดย The Juday Group ซึ่งได้รับมอบหมายจากสมาพันธ์ส่งออกเนื้อสัตว์ของสหรัฐอเมริกา เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งออกเนื้อแดงต่อมูลค่าข้าวโพดและถั่วเหลืองต่อบุชเชล การศึกษาดังกล่าวเน้นย้ำถึงความเชื่อมโยงกันของปศุสัตว์และผลผลิตพืชผล โดยเน้นถึงความสำคัญของแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรที่ยั่งยืนและประสิทธิภาพของอาหารสัตว์ในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ทางด้านสัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าชิคาโกยังคงทรงตัวใกล้ระดับ 4.3 ดอลลาร์ต่อบุชเชล หลังจากมีรายงานการคาดการณ์การเพาะปลูกจาก USDA ซึ่งคาดการณ์ว่าการปลูกข้าวโพดจะลดลง 5% ในปี 2024 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมเชิงบวกของตลาดยังคงถูกจำกัดโดยสต๊อกข้าวโพดที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งแตะระดับ 8.347 พันล้านบุชเชล ณ วันที่ 1 มีนาคม นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตในอเมริกาใต้จะน้อยลง โดยเฉพาะในอาร์เจนตินาและบราซิล

ในรัฐมิสซิสซิปปี้ เกษตรกรได้วางแผนที่จะปรับกลยุทธ์การเพาะปลูกในปี 2024 โดยมีความตั้งใจที่จะลดการปลูกข้าวโพดลง 25% และเพิ่มการปลูกฝ้ายด้วยเปอร์เซ็นต์ที่เทียบเท่ากับปีที่แล้ว การตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางจากการเพาะปลูกข้าวโพดได้รับอิทธิพลจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมถึงการปลูกข้าวโพดจำนวนมากเมื่อปีที่แล้ว ส่งผลให้มีสต๊อกข้าวโพดจำนวนมาก และส่งผลต่อราคาข้าวโพด

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของตลาดที่เปลี่ยนแปลงและการวางตำแหน่งซื้อขายได้มีอิทธิพลต่อตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยนักลงทุนยังคงรักษาสถานะขาย หรือ Short ในตลาดซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้าในชิคาโก แม้ว่าจะเพิ่มสถานะ Short สุทธิเล็กน้อยในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มีนาคม ซึ่งการวางตำแหน่งดังกล่าวคล้ายกับรูปแบบเมื่อต้นปี 2019 ส่งผลให้นักลงทุนเผชิญความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรูปแบบสภาพอากาศและผลการผลิตทั่วโลก

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ราคาข้าวโพดพบกับแนวต้านที่แข็งแกร่งที่ 449.20 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดตัวลง โดยการทรงตัวเหนือระดับแนวรับหลักที่ 433.50 ดอลลาร์ จะส่งผลให้ราคายังคงรักษาศักยภาพในการกลับตัวเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นต่อไปได้ จากแรงหนุนจากการเข้าสู่กรอบตำแหน่งขายที่มากเกินไป (Oversold) โดยมีการคาดการณ์ถึงแนวโน้มเชิงบวกในช่วงต่อๆ ไป ซึ่งอาจมีการทดสอบแนวต้านด่านแรกซ้ำที่ 449.20 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากมีการทะลุระดับแนวรับต่ำกว่า 433.50 ดอลลาร์ จะส่งผลให้แนวโน้มขาขึ้นชะงักและอาจส่งผลให้ราคาปรับลดลงอีก โดยช่วงการซื้อขายที่คาดหวังอยู่ระหว่างแนวรับ 430.00 และแนวต้าน 445.00 ดอลลาร์

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD US Corn Futures - May 24 (ZCK4)

แนวต้านสำคัญ : 427.55, 427.67, 427.86

แนวรับสำคัญ : 427.17, 427.05, 426.86                 

30Min Outlook   

ที่มา: TradingView                                            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 426.97 - 427.17 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 427.17 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 427.62 และ SL ที่ประมาณ 426.87 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 427.55 - 427.75 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 428.10 และ SL ที่ประมาณ 427.07 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 427.55 - 427.75 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 427.55 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 427.12 และ SL ที่ประมาณ 427.85 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 426.97 - 427.17 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 426.65 และ SL ที่ประมาณ 427.65 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 3, 2024 12:58PM GMT+7