อังกฤษต่อสู้กับความท้าทายทางเศรษฐกิจท่ามกลางการเลือกตั้งที่ใกล้จะถึง
ในปี 2023 สหราชอาณาจักรเผชิญกับภาวะถดถอยเล็กน้อย หลังจากข้อมูลอย่างเป็นทางการเผยให้เห็นว่า GDP ในไตรมาสที่สามหดตัว 0.1% และลดลงอีก 0.3% ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งนี้ถือเป็นความท้าทายสำหรับนายกรัฐมนตรี ริชิ ซูนัก ที่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประชาชนก่อนการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น
โดยแม้ว่ากิจกรรมด้านบริการจะซบเซา แต่จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อาจดีขึ้นสำหรับเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ซึ่งได้แซงหน้าฝรั่งเศสและเยอรมนี แต่ยังตามหลังอิตาลีและสเปน และแม้ว่าการลดภาษีและการปรับอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้อาจกระตุ้นการเติบโตในปี 2024 แต่สหราชอาณาจักรยังฟื้นตัวได้ล่าช้าจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่ม G7
ทั้งนี้ รัฐบาลชุดต่อไปอาจจำต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อันดับเครดิตของอังกฤษแย่ลงไปอีก โดยพรรคแรงงานซึ่งขึ้นนำในการสำรวจ ให้คำมั่นว่าจะรักษาเป้าหมายการลดหนี้ของรัฐบาลอนุรักษ์นิยม แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันในการเพิ่มการใช้จ่ายภาครัฐ ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชนเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ การศึกษา และที่อยู่อาศัย ซึ่งการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ S&P หลังจากการลงประชามติ Brexit และความกังวลเกี่ยวกับการลดภาษีในเวลาต่อมา ส่งสัญญาณถึงความสมดุลที่เปราะบางระหว่างความรับผิดชอบทางการคลังและความต้องการของสาธารณะ
ในด้านเศรษฐกิจ ซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษพบยอดขายเพิ่มขึ้น 5.4% โดยได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง โดยอัตราเงินเฟ้อของราคาร้านค้าลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปี ขณะที่ราคาอาหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและราคาที่ไม่ใช่อาหารยังคงทรงตัว ธนาคารกลางอังกฤษคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่า 2% ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง ขณะที่ความคาดหวังของสาธารณชนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อลดลงเช่นกัน บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ดีสำหรับเสถียรภาพด้านราคา
อีกด้าน ในเดือนมีนาคม ผู้ผลิตในอังกฤษรายงานการเติบโตของกิจกรรมการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงการสิ้นสุดของภาวะเศรษฐกิจถดถอยล่าสุด โดยแม้จะมีความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เช่น จำนวนพนักงานที่ลดลงและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น แต่ธุรกิจต่างๆ ยังคงรักษามุมมองเชิงบวกไว้ได้ นอกจากนี้ ราคาบ้านในอังกฤษยังคงพุ่งสูงขึ้นทุกปี ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากความผันผวนที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาด ขณะที่การอนุมัติสินเชื่อที่อยู่อาศัยพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในตลาดที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น
ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงทรงตัวท่ามกลางการคาดการณ์รายงานเศรษฐกิจที่สำคัญและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยจุดยืนที่ใช้ความระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการปรับอัตราดอกเบี้ยสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการประเมินข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น โดยตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ รวมถึงจำนวนงานและอัตราเงินเฟ้อ จะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายของเฟดในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ความกังวลเกี่ยวกับแผนการจ้างงานและความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ได้บดบังแนวโน้มการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ การสำรวจล่าสุดระบุถึงแผนการจ้างงานที่อ่อนแอในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม ที่ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020 และเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มตลาดงานในวงกว้าง ขณะที่ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรการสนับสนุนแบบมีเงื่อนไขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่อการรุกของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้เพิ่มความกังวลให้กับนักลงทุน ท่ามกลางการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนกุมภาพันธ์ บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางการค้าที่อาจส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสแรก จึงคาดว่าอาจส่งผลให้คู่สกุลเงิน GBP/USD ทรงตัวและมีการซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนของสองประเทศเศรษฐกิจที่ไม่ต่างกัน โดยอาจพบการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อีกเล็กน้อย
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2660, 1.2682, 1.2719
แนวรับสำคัญ : 1.2586, 1.2564, 1.2527
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2546 - 1.2586 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2586 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2685 และ SL ที่ประมาณ 1.2526 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2660 - 1.2700 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2720 และ SL ที่ประมาณ 1.2566 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2660 - 1.2700 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2660 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2586 และ SL ที่ประมาณ 1.2720 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2546 - 1.2586 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2527 และ SL ที่ประมาณ 1.2680 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 5, 2024 10:50AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2493 | 1.2527 | 1.2589 | 1.2623 | 1.2685 | 1.2719 | 1.2781 |
Fibonacci | 1.2527 | 1.2564 | 1.2586 | 1.2623 | 1.266 | 1.2682 | 1.2719 |
Camarilla | 1.2625 | 1.2633 | 1.2642 | 1.2623 | 1.266 | 1.2669 | 1.2677 |
Woodie's | 1.2507 | 1.2534 | 1.2603 | 1.263 | 1.2699 | 1.2726 | 1.2795 |
DeMark's | - | - | 1.2606 | 1.2631 | 1.2702 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ