บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 9 เมษายน 2567

Create at 7 months ago (Apr 09, 2024 10:47)

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขาดทิศทางที่แน่ชัด จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานรายได้

ดัชนี S&P 500 และดัชนีดาวโจนส์เผชิญกับการลดลง ในขณะที่ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนปรับลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง จากความเป็นไปได้ที่จะมีการหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงในฉนวนกาซา

ทั้งนี้ ตลาดฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ยังคงค่อนข้างทรงตัว บ่งชี้ถึงกิจกรรมการซื้อขายที่เบาบางหลังจากรายงานผลการดำเนินงานที่ซบเซาในวอลล์สตรีท ท่ามกลางการคาดการณ์การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและรายงานผลประกอบการของบริษัท ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดโดยเผชิญความผันผวนเล็กน้อย สะท้อนถึงการซื้อขายท่ามกลางความระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่และการเริ่มประกาศผลประกอบการไตรมาสแรก

โดยแม้จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ก่อน แต่ดัชนีหลักๆ ยังปรับตัวลดลงจำนวนมาก โดยสาเหตุหลักมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจุดยืนของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่ออัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนต่างตั้งตารอการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคในเดือนมีนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อมูลการเติบโตของตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาด ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทันที

ขณะเดียวกัน ในดัชนี S&P 500 กลุ่มธุรกิจหลัก 6 กลุ่มจาก 11 กลุ่มปิดตัวลดลง โดยหุ้นพลังงานร่วงต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่หุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางหุ้นของ Tesla ที่เพิ่มขึ้น 4.9% หลังจากที่ CEO Elon Musk ประกาศแผนเปิดตัว Robotaxi ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติของบริษัทในเดือนสิงหาคม

ทางด้านบริษัท Boeing เผชิญกับอุปสรรค หลังจากฝาครอบเครื่องยนต์หลุดออกจากเครื่องบินของสายการบินเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ ระหว่างที่เครื่องขึ้นในเดนเวอร์ ส่งผลให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติเข้าสอบสวน โดย Moody's Investors Service ได้จัดอันดับเครดิตของ Boeing ไว้ภายใต้การทบทวนความเป็นไปได้ในการปรับลดอันดับ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทางด้านหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงทรงตัวเนื่องจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ท่ามกลางความคาดหวังในการหยุดยิงในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ซึ่งช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานในตะวันออกกลาง โดยราคาน้ำมันลดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากความเชื่อมั่นในการหยุดยิงที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังว่าอุปทานน้ำมันจะถูกจำกัดมากขึ้น จากการลดการผลิตโดย OPEC และรัสเซีย

ในขณะเดียวกัน หุ้นสกุลเงินดิจิทัล รวมถึง Coinbase Global, MicroStrategy, RIOT, MARA และ COIN พุ่งสูงขึ้น หลังจากราคา Bitcoin ทะลุ 72,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนปรับการคาดการณ์ใหม่เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้แรงหนุนจากรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีได้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรนี้มาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งโดยทั่วไปจะบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยคาดการณ์

อย่างไรก็ดี นักลงทุนตั้งตารอฤดูกาลผลประกอบการไตรมาสแรกที่จะมาถึง โดยโฟกัสไปที่ธนาคารใหญ่ๆ เช่น JPMorgan Chase, Citigroup และ Wells Fargo พร้อมด้วย Delta Airlines และ BlackRock ที่มีกำหนดรายงานข้อมูลอัปเดตรายไตรมาส

โดยผู้สังเกตการณ์ตลาดสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัว ซึ่งอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ภาคส่วนธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การเงิน พลังงาน และอุตสาหกรรม ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดี ในขณะที่หุ้นคุณภาพยังคงเป็นจุดสนใจสำคัญสำหรับนักลงทุน

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ของ Wells Fargo คาดการณ์การเติบโตอย่างต่อเนื่องในดัชนี S&P 500 โดยอ้างถึงตลาดขาขึ้นที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ ขณะที่ JPMorgan ปรับขึ้นราคาเป้าหมายสำหรับ Spotify และ Netflix โดยยังคงรักษาแนวโน้มเชิงบวกสำหรับทั้งสองบริษัทก่อนการรายงานผลประกอบการ จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมแม้อาจยังคงแนวโน้มเชิงบวกในระยะนี้ แต่ยังคงความผันผวนและความเสี่ยงในการกลับตัวลดลงได้อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5205.4, 5205.8, 5206.6

แนวรับสำคัญ : 5203.8, 5203.4, 5202.6                     

30Min Outlook              

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5201.8 - 5203.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5203.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5205.8 และ SL ที่ประมาณ 5201.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5205.4 - 5207.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5209.0 และ SL ที่ประมาณ 5203.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5205.4 - 5207.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5205.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5203.8 และ SL ที่ประมาณ 5208.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5201.8 - 5203.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5200.0 และ SL ที่ประมาณ 5206.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 9, 2024 10:04AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5201.8 5202.6 5203.8 5204.6 5205.8 5206.6 5207.8
Fibonacci 5202.6 5203.4 5203.8 5204.6 5205.4 5205.8 5206.6
Camarilla 5204.4 5204.6 5204.8 5204.6 5205.2 5205.4 5205.6
Woodie's 5202 5202.7 5204 5204.7 5206 5206.7 5208
DeMark's - - 5204.2 5204.8 5206.2 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES