จีนอาจมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังอัตราเงินเฟ้อลดลง
เงินหยวนเริ่มกลับมาทรงตัวหลังจากอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วในวันพุธ ซึ่งยังคงได้รับแรงกดดันส่วนใหญ่มาจากเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อภายในประเทศที่กลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้งทำให้นักลงทุนเริ่มมีความหวังว่าทางธนาคารกลางของจีนจะมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นอีกครั้งจากที่เริ่มมีแนวโน้มซบเซาลงหลังผ่านวันตรุษจีน ขณะนี้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขดุลการค้าของจีนในวันศุกร์นี้
อัตราเงินเฟ้อของจีนเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม หลังจากเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก่อนหน้า โดยการชะลอตัวของเงินเฟ้อเกิดขึ้นเนื่องจากผลกระทบของวันตรุษจีนที่ผ่านไปแล้ว โดยอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ใช่อาหารผ่อนลดลงเล็กน้อยจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง ในขณะที่ราคาอาหารลดลงอย่างมาก เนื่องจากต้นทุนเนื้อหมูและผักสดปรับตัวลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวนเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ชะลอตัวลงจาก 1.2% ในเดือนก่อนหน้า
Fitch Ratings ปรับแนวโน้มเครดิตของจีนจาก Stable เป็น Negative ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะช่วงการเปลี่ยนผ่านจากการเน้นการเติบโตที่พึ่งพาอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้เกิดการขาดดุลทางการคลังอย่างมีนัยสำคัญและหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลต่ออันดับเครดิตและความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
Services PMI เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือนเป็น 52.7 ในเดือนมีนาคม นับเป็นการเติบโตของกิจกรรมการบริการเดือนที่ 15 ติดต่อกัน พบว่ามีธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็ว นอกจากนี้ คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคำสั่งซื้อเพื่อส่งออก ในด้านต้นทุนพบว่าราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบ, แรงงานและค่าขนส่งที่สูงขึ้น ซึ่งสูงกว่าแนวโน้มระยะยาวเล็กน้อย
Manufacturing PMI เพิ่มขึ้นเป็น 51.1 นับเป็นการเติบโตของกิจกรรมโรงงานเดือนที่ 5 ติดต่อกันและเป็นการเติบโตที่เร็วที่สุดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อใหม่ที่สูงขึ้นจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยอดขายจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบปี ในขณะเดียวกัน การจ้างงานลดลงอีกครั้งซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆ ระมัดระวังในการจ้างงานมากขึ้นเพื่อควบคุมต้นทุน ด้านราคาวัตถุดิบลดลงเล็กน้อยทำให้บริษัทต่างๆ สามารถลดราคาสินค้าได้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ให้เพิ่มขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2377, 7.2381, 7.2388
แนวรับสำคัญ: 7.2367, 7.2361, 7.2356
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.2361 - 7.2367 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2367 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2381 และ SL ที่ประมาณ 7.2356 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2377 - 7.2381 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2388 และ SL ที่ประมาณ 7.2361 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2377- 7.2381 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2377 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2361 และ SL ที่ประมาณ 7.2388 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2361 - 7.2367 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2356 และ SL ที่ประมาณ 7.2381 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 12 เมษายน 2567 21:47 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 7.2356 | 7.2361 | 7.2367 | 7.2371 | 7.2377 | 7.2381 | 7.2388 |
Fibonacci | 7.2361 | 7.2365 | 7.2367 | 7.2371 | 7.2375 | 7.2377 | 7.2381 |
Camarilla | 7.2369 | 7.237 | 7.2371 | 7.2371 | 7.2372 | 7.2373 | 7.2374 |
Woodie's | 7.2356 | 7.2361 | 7.2367 | 7.2371 | 7.2377 | 7.2381 | 7.2388 |
DeMark's | - | - | 7.2368 | 7.2372 | 7.2379 | - | - |