ตลาดวอลล์สตรีทเผชิญกับความผันผวนท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

ตลาดวอลล์สตรีทเผชิญกับความผันผวนในวันอังคาร และปิดตลาดลงด้วยแนวโน้มขาลงท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ขณะที่นักลงทุนยังคงพยายามคาดการณ์ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาถึงฉากหลังของเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งควบคู่ไปกับความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่

ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหุ้นพบทิศทางที่หลากหลายระหว่างภาคส่วนต่างๆ โดยภาคเทคโนโลยี การดูแลสุขภาพ และการบริการผู้บริโภคพบการเติบโต ในขณะที่ภาคสาธารณูปโภค น้ำมันและก๊าซ และการเงิน เผชิญกับการแรงกดดัน

โดยแม้จะพบแรงเทขายอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาดวอลล์สตรีทดูเหมือนจะยังคงทรงตัวได้ แม้ว่าความต้องการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงจะยังคงเปราะบาง ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง และการยืนยันเกี่ยวกับการคงอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด

คำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ เน้นย้ำถึงจุดยืนที่ระมัดระวังในการผ่อนคลายนโยบาย โดยอ้างถึงความเชื่อมั่นที่ไม่เพียงพออันเนื่องมาจากข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุด ขณะที่พาวเวลล์บอกเป็นนัยถึงความเป็นไปได้ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นต่อไป ซึ่งแตกต่างไปจากการคาดการณ์ครั้งก่อน ขณะเดียวกัน วิกฤตในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จากการโจมตีอิสราเอลของอิหร่าน ก็ได้สร้างความกระวนกระวายใจต่อนักลงทุนในตลาด

อย่างไรก็ดี พบหุ้นของบริษัท Morgan Stanley เพิ่มขึ้นหลังจากผลกำไรไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ Bank of America เผชิญกับการลดลงเนื่องจากผลกำไรที่ลดลงและการกันเงินสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น

ทางด้านผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าที่คาดไว้ของ UnitedHealth Group ช่วยให้ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น ในขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคกดดันดัชนี S&P 500 ลดลง และหุ้นในภาคธุรกิจเทคโนโลยีมีส่วนสนับสนุนเชิงบวกต่อตลาดอย่างเห็นได้ชัด

ทางด้านหุ้นของ Johnson & Johnson ร่วงลงเนื่องจากรายได้ที่น่าผิดหวัง โดยเฉพาะจากยารักษาโรคสะเก็ดเงิน Stelara หุ้นของ Tesla ลดลงอีกหลังจากประกาศเลิกจ้างพนักงานและเผชิญกับความล่าช้าในการส่งมอบรถบรรทุกไซเบอร์ ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความต้องการในอนาคต

Live Nation Entertainment Inc เผชิญกับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญหลังจากมีรายงานเกี่ยวกับการฟ้องร้องต่อต้านการผูกขาดโดยกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา โดยกล่าวหาถึงการครอบงำตลาดในภาคการถ่ายทอดสด

ขณะเดียวกัน บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ NVIDIA พบแรงบวกบางส่วน จากการลงทุนของ Microsoft ในบริษัท AI ในอาบูดาบีได้จุดประกายความเชื่อมั่นเชิงบวกให้กับตลาด

อย่างไรก็ดี ฤดูกาลรายงานผลประกอบการยังคงดำเนินต่อไป โดย ASML Holding NV และ Abbott Laboratories มีกำหนดรายงานในวันพุธ ซึ่งโดยรวมแล้ว ความเชื่อมั่นของตลาดหุ้นยังคงใช้ความระมัดระวังท่ามกลางอิทธิพลที่ซับซ้อนของข้อมูลทางเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลการดำเนินงานของธุรกิจและองค์กรต่างๆ ประกอบการ จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมแม้อาจยังคงแนวโน้มเชิงบวกเล็กน้อยในระยะนี้ แต่ยังคงความผันผวนและความเสี่ยงอยู่มาก

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 37894.1, 37901.2, 37912.8

แนวรับสำคัญ : 37870.9, 37863.8, 37852.2                 

1H Outlook

ที่มา: TradingView                       

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 37840.9 - 37870.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 37870.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37899.1 และ SL ที่ประมาณ 37825.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 37894.1 - 37924.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39540.0 และ SL ที่ประมาณ 37855.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 37894.1 - 37924.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 37894.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37868.8 และ SL ที่ประมาณ 37939.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 37840.9 - 37870.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 37825.0 และ SL ที่ประมาณ 37909.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Apr 17, 2024 10:25AM GMT+7