ชะตากรรมของเงินเยนขึ้นอยู่กับการทบทวนนโยบายของ BOJ
สัปดาห์นี้ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เงินเยน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมทบทวนนโยบายการเงินในวันศุกร์นี้ ท่ามกลางเงินเยนที่ซื้อขายที่ 154.70 ต่อดอลลาร์ ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 34 ปีที่ 154.79 ในสัปดาห์ที่แล้ว และเข้าใกล้ระดับ 155 ซึ่งอาจกระตุ้นให้ทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน
หลังจากการประชุมผู้นำทางการเงินของกลุ่ม G20 ในกรุงวอชิงตัน ผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อุเอดะกล่าวว่าธนาคารกลางอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากการอ่อนค่าของเงินเยนส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมที่ออกโดยญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ตอกย้ำความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินที่อ่อนค่าลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นซึ่งได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนแอ ท่ามกลางความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันและต้นทุนที่สูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งสองประเทศตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน
โดยผู้ว่าการอุเอดะย้ำถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ BOJ จะต้องคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไว้ในขณะนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ยังต่ำกว่าเป้าหมาย 2% โดยแม้จะมีการยุติมาตรการทางการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ แต่ BOJ ยังคงความยืดหยุ่นในแนวทางนโยบาย ซึ่งรวมถึงการปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้น และการลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น
ความคาดหวังของตลาดโอนเอียงไปที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในปีนี้ โดยคาดว่าจะรู้เบาะแสเกี่ยวกับช่วงจังหวะเวลาในระหว่างการประชุมนโยบายของ BOJ ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งจะมีการเปิดเผยการคาดการณ์การเติบโตและอัตราเงินเฟ้อใหม่ ขณะที่ผู้ว่าการอุเอดะเน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามข้อมูลค่าจ้างและผลกระทบต่อราคาบริการในการตัดสินใจ
ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่หลากหลายในเดือนมีนาคม โดย CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นตามที่คาดไว้แต่ในอัตราที่ช้าลง ในขณะที่แนวโน้มราคาทั่วไปบ่งชี้ว่าเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง
ในเดือนเมษายน ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในหมู่ผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นและบริษัทภาคบริการลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยได้รับอิทธิพลจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นและสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในจีน โดยดัชนีความเชื่อมั่นจาก Reuters Tankan ของผู้ผลิตลดลงจากเดือนก่อน โดยภาคธุรกิจสารเคมีและการแปรรูปอาหารได้รับผลกระทบเป็นพิเศษ ในขณะเดียวกัน ดัชนีภาคบริการลดลง แม้ว่าภาคการค้าปลีกจะปรับปรุงดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นของทั้งสองภาคส่วนคาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยในช่วงสามเดือนข้างหน้า
ทางด้านการอ่อนค่าของเงินเยนอยู่ในระดับที่ไม่เคยพบเห็นมาตั้งแต่ปี 1990 ส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้น และส่งผลเสียต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือน อย่างไรก็ตาม การส่งออกของญี่ปุ่นเกินความคาดหมายในเดือนมีนาคม โดยได้แรงหนุนจากความต้องการที่แข็งแกร่งในตลาดสำคัญๆ เช่น สหรัฐฯ และจีน ส่งผลให้เกิดการเกินดุลการค้า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออก แต่ปริมาณการส่งออกกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นตามสัดส่วน สร้างความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการเติบโตของประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออก
ในแง่บวก ตัวชี้วัดการใช้จ่ายด้านทุนที่สำคัญของญี่ปุ่นเกินการคาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากลดลงในเดือนก่อน บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในประเทศแข็งแกร่งขึ้นท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินเยน
ทางด้านเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเนื่องจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนต่างรอคอยการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมจะยังคงสูง ขณะที่ PMI ของสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม บ่งชี้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมบริการชะลอตัวลงอีกครั้ง หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อภาคบริการที่อ่อนตัวลง
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมประจำสัปดาห์ประกอบด้วยประมาณการเบื้องต้นของ GDP ไตรมาสแรก ซึ่งคาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับยอดขายบ้านใหม่ การขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก และตัวเลขแก้ไขเกี่ยวกับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จึงอาจส่งผลให้เงินเยนทรงตัวซื้อขายขึ้นลงในกรอบแคบๆ และคงความอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างต่อเนื่องในระยะนี้ โดยการกลับตัวของเงินเยนคาดว่าจะขึ้นอยู่กับข่าวและข้อมูลทางเศรษฐกิจเกี่ยวกับการแทรกแซงค่าเงินของทางการญี่ปุ่นเป็นปัจจัยสำคัญ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 154.68, 154.71, 154.75
แนวรับสำคัญ : 154.60, 154.57, 154.53
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 154.50 – 154.60 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 154.60 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.69 และ SL ที่ประมาณ 154.45 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 154.68 – 154.78 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.83 และ SL ที่ประมาณ 154.55 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 154.68 – 154.78 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 154.68 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.58 และ SL ที่ประมาณ 154.83 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 154.50 – 154.60 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.44 และ SL ที่ประมาณ 154.73 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 22, 2024 09:18AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 154.47 | 154.53 | 154.58 | 154.64 | 154.69 | 154.75 | 154.8 |
Fibonacci | 154.53 | 154.57 | 154.6 | 154.64 | 154.68 | 154.71 | 154.75 |
Camarilla | 154.59 | 154.6 | 154.61 | 154.64 | 154.64 | 154.65 | 154.66 |
Woodie's | 154.45 | 154.52 | 154.56 | 154.63 | 154.67 | 154.74 | 154.78 |
DeMark's | - | - | 154.55 | 154.62 | 154.66 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ