การส่งออกของจีนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เงินหยวนยังคงทรงตัว เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงตามรายงานกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ที่ลดลงในเดือนเมษายน โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่ลดลงทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจของสหรัฐที่ชะลอตัวลงด้วย ทำให้นักลงทุนยังคงจับตาดูการตัดสินใจของ Fed ต่อไป ในขณะเดียวกัน นักลงทุนก็กำลังให้ความสนใจกับข้อมูล GDP ของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ และการประกาศ PCE ในวันศุกร์ เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงิน
การเกินดุลการค้าของจีนลดลงเหลือ 58.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคม จาก 78.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 70.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการส่งออกลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การนำเข้าของจีนลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การนำเข้าไปยังจีนลดลง 1.9% จากปีก่อนหน้าเป็น 221.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศกลับมาอ่อนแออีกครั้งหลังจากได้รับแรงหนุนจากช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งนับเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว นอกจากนี้ การนำเข้าที่ลดลงยังสะท้อนถึงแรงกดดันด้านจากภาวะเงินฝืดที่ยังคงน่ากังวลแม้ว่าอัราเงินเฟ้อในจีนจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นแล้วก็ตาม โดยสินค้าที่มีการลดการนำเข้ามากที่สุดคือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเหล็กและน้ำมันดิบ
การส่งออกจากจีนลดลง 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 279.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการกลับมาลดลงอีกครั้งหลังจากเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยสู้ดีมากนัก ทั้งนี้ อุปสงค์จากต่างประเทศยังคงต้องการสินค้าจากจีนเพื่อลดต้นทุนการผลิต อาจช่วยขับเคลื่อนให้การส่งออกของจีนกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง โดยในไตรมาสแรกของปี 2024 การส่งออกของจีนเติบโตเพียง 1.5% เท่านั้น โดยการส่งออกลดลงในยุโรป, เกาหลีใต้และออสเตรเลีย
ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนเมษายน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยการตัดสินใจนี้ ได้รับผลกระทบมาจากเศรษฐกิจขยายตัวเกินคาดในไตรมาสแรก ของปี 2024 ในขณะที่เงินหยวนยังคงเจอกับแรงกดดัน โดยรัฐบาลจีนพยายามกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากข้อมูลกิจกรรมยังคงอ่อนแอในการประกาศเดือนมีนาคม ทั้งนี้ ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์และอัตราเงินฝืดที่ยืดเย้อยังคงเป็นปัญหาหลักในประเทศ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนลดลง 26.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี เหลือ 301.67 พันล้านหยวนในไตรมาสแรกของปี 2024 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศรวมไปถึงพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ถึงอย่างนั้น การกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ร้อนแรง ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดความกังวลของนักลงทุน
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2463, 7.2465, 7.2468
แนวรับสำคัญ: 7.2458, 7.2455, 7.2453
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.2455 - 7.2458 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2458 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2465 และ SL ที่ประมาณ 7.2453 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2463 - 7.2465 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2468 และ SL ที่ประมาณ 7.2455 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2463 - 7.2465 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2463 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2455 และ SL ที่ประมาณ 7.2468 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.2455 - 7.2458 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2453 และ SL ที่ประมาณ 7.2465 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 24 เมษายน 2567 20:51 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 7.2453 | 7.2455 | 7.2458 | 7.246 | 7.2463 | 7.2465 | 7.2468 |
Fibonacci | 7.2455 | 7.2457 | 7.2458 | 7.246 | 7.2462 | 7.2463 | 7.2465 |
Camarilla | 7.2459 | 7.2459 | 7.246 | 7.246 | 7.246 | 7.2461 | 7.2461 |
Woodie's | 7.2453 | 7.2455 | 7.2458 | 7.246 | 7.2463 | 7.2465 | 7.2468 |
DeMark's | - | - | 7.2458 | 7.246 | 7.2464 | - | - |