การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนในแคนาดาเริ่มทรงตัว
ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง เนื่องจากแนวโน้มนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารแห่งแคนาดาและธนาคารกลางสหรัฐยังคงสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป นอกจากนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคในแคนาดายังคงชะลอตัวแต้แต่ช่วงต้นปี โดยดูจากยอดค้าปลีกที่คงที่ในไตรมาสแรก การชะลอตัวนี้อาจส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศแคนาดาพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน
รายได้เฉลี่ยรายสัปดาห์ของพนักงานนอกภาคเกษตรในแคนาดาเพิ่มขึ้น 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็น 1,232 ดอลลาร์ โดย 13 ภาคส่วนจาก 20 ภาคส่วนมีการรายงานว่ามีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มากที่สุด ได้แก่ ภาครัฐบาล รองลงมาคือการเงินและการประกันภัย ทั้งนี้ ภาคการผลิตมีรายได้เพิ่มขึ้นน้อยที่สุด เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงและปัญหาเงินเฟ้อทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มมากขึ้นด้วย
ยอดค้าปลีกในแคนาดามีแนวโน้มที่ในเดือนมีนาคม แม้ว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยยอดขายกลับมาลดลงใน 5 จาก 9 กลุ่ม นำโดยการลดลงของยอดขายน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงตัวแทนจำหน่ายยานยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ เนื่องจากความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง
ดัชนีราคาผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมของแคนาดาเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมีนาคม ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่อ่อนลงก็ตาม การเพิ่มขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากต้นทุนที่สูงขึ้นของผลิตภัณฑ์โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก ได้แก่สินค้าประเภทเงินและทองคำ นอกจากนี้ ราคาทองแดงและนิกเกิลยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากการขนส่งที่ล่าช้าจากอินโดนีเซียและการลดกำลังการผลิตในจีน ในขณะที่ต้นทุนสินค้าประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์พลังงานและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
อัตราเงินเฟ้อในแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมีนาคม ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของธนาคารแห่งแคนาดาที่ 3% เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนของหลายบริษัทและทำให้เกิดการผลักดันอัตราเงินเฟ้อด้านการขนส่งให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ BoC คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงต่อเนื่องในปลายปีนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 3.87% ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ที่ยังแข็งแกร่ง ทั้งนี้ การเติบโตของ GDP ที่ชะลอตัวลง ทำให้ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ยังคงลดลง แม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ก็ตาม
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.3657, 1.3668, 1.3678
แนวรับสำคัญ: 1.3636, 1.3626, 1.3615
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3626 - 1.3636 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3636 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3668 และ SL ที่ประมาณ 1.3615 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3657 - 1.3668 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3678 และ SL ที่ประมาณ 1.3626 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3657 - 1.3668 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3657 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3626 และ SL ที่ประมาณ 1.3678 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3626 - 1.3636 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3615 และ SL ที่ประมาณ 1.3668 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 26 เมษายน 2567 20:08 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 1.3615 | 1.3626 | 1.3636 | 1.3647 | 1.3657 | 1.3668 | 1.3678 |
Fibonacci | 1.3626 | 1.3634 | 1.3639 | 1.3647 | 1.3655 | 1.366 | 1.3668 |
Camarilla | 1.3639 | 1.3641 | 1.3643 | 1.3647 | 1.3647 | 1.3649 | 1.3651 |
Woodie's | 1.3613 | 1.3625 | 1.3634 | 1.3646 | 1.3655 | 1.3667 | 1.3676 |
DeMark's | - | - | 1.363 | 1.3644 | 1.3651 | - | - |