ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นท่ามกลางความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและรายงานผลประกอบการ

ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้ จากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนตัวในเดือนเมษายนที่กระตุ้นให้นักลงทุนจำนวนมากปรับทบทวนการคาดการณ์ โดยความสนใจของตลาดหันไปที่คำแถลงที่กำลังจะมีขึ้นจากเจ้าหน้าที่ Fed ในการประเมินข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Walt Disney และ Wynn Resorts เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีกำหนดรายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุด ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด

โดยหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นในวันจันทร์ และปรับตัวขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี การบริการลูกค้า และการเงิน ขณะที่ดัชนีหุ้นในกลุ่มพลังงานยังเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาที่เพิ่มขึ้นของสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าของสหรัฐฯ ท่ามกลางกลุ่มผู้ผลิตชิปที่ได้รับผลกำไรในวงกว้าง โดยพบการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน Arm Holdings, Micron Technology, Advanced Micro Devices และ Super Micro Computer ขณะที่บริษัทสื่ออย่าง Paramount Global ปรับตัวดีขึ้นหลังจากสิ้นสุดการเจรจากับ Skydance Media พร้อมกันกับบริษัท Tyson Foods ที่ลดลงแม้จะมีผลกำไรเกินคาด จากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และบริษัท Spirit Airlines ที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์หลังจากรายงานแนวโน้มรายได้ที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิปได้รับแรงหนุนจากการอัพเกรดแนวโน้มของนักวิเคราะห์ในแง่ดี ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันผลกำไรทั่วทั้งภาคส่วน ขณะที่สัญญาณทางเศรษฐกิจแบบผสมยังคงส่งผลต่อความผันผวน ทั้งในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้

โดยสัปดาห์นี้ จะมีการรายงานผลประกอบการที่สำคัญจากบริษัทต่างๆ เช่น Walt Disney, Reddit และ Arm Holdings โดยแนวโน้มของธุรกิจคลาวด์สาธารณะและรายจ่ายฝ่ายทุนที่สำคัญในกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง ท่ามกลางความเชื่อมั่นของตลาดที่ยังคงค่อนข้างใช้ความระมัดระวัง แม้ว่าจะมีการรายงานผลประกอบการที่เป็นบวก โดยตลาดจะให้ความสนใจกับปัจจัยต่างๆ เช่น การปรับปรุง EPS ผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น และการลงทุนด้าน AI

อย่างไรก็ดี ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นตามข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนเมษายนที่อ่อนตัวกว่าที่คาด ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานอาจกำลังเย็นตัวลงและช่วยคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลส่งสัญญาณที่อาจไม่เต็มใจยอมรับเงื่อนไขบางประการ จึงอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมอาจยังคงแนวโน้มเชิงบวกได้อยู่บ้างเล็กน้อยในช่วงนี้ ท่ามกลางความผันผวนและความเสี่ยงในการกลับตัวลงได้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5202.97, 5276.22, 5394.79       

แนวรับสำคัญ : 4965.83, 4892.58, 4774.01                

1D Outlook      

ที่มา: TradingView                             

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 4890.83 - 4965.83 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 4965.83 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5202.97 และ SL ที่ประมาณ 4853.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5202.97 - 5277.97 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5394.00 และ SL ที่ประมาณ 4928.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5202.97 - 5277.97 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5202.97 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4965.83 และ SL ที่ประมาณ 5315.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 4890.83 - 4965.83 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 4774.00 และ SL ที่ประมาณ 5240.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points May 7, 2024 01:20PM GMT+7