เศรษฐกิจจีนยังคงเปราะบาง

เงินหยวนแข็งค่าเพิ่มขึ้นเกิน 7.21 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากธนาคารประชาชนจีน (PBoC) คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง 1 ปีไว้ที่ 2.5% นอกจากนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐลดลงเหลือ 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ลดลงจาก 0.4% ในเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ จีนยังคงเจอกับวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องซื้อบ้านที่ขายไม่ออกหลายล้านหลัง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเสถียรภาพและฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง

ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้สนับสนุนเงินรวม 1.25 แสนล้านหยวนผ่านวงเงินกู้ยืมระยะกลาง (MLF) แก่สถาบันการเงิน และคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ท่ามกลางความพยายามของธนาคารกลาง เพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินหยวนและสนับสนุนเศรษฐกิจผ่านการปล่อยวงเงินกู้ให้มากขึ้น โดย PBoC ยังเพิ่มเงินมากกว่า 2 พันล้านหยวนผ่านการดำเนินการซื้อขายพันฐบัตรรัฐบาล

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของจีนลดลงต่ำกว่า 2.3% หลังจากที่มีการพยายามระดมทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะเริ่มออกพันธบัตรอายุ 30 ปีในวันที่ 17 พฤษภาคม, พันธบัตรอายุ 20 ปีในวันที่ 24 พฤษภาคม และพันธบัตรอายุ 50 ปีในวันที่ 14 มิถุนายน ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลง ยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว

PBoC ยังคงขยายสินเชื่อใหม่กว่า 0.73 ล้านล้านหยวนในเดือนเมษายน แม้ว่าจะเป็นการลดลงอย่างรวดเร็วจาก 3.1 ล้านล้านหยวนในเดือนมีนาคมก็ตาม ในช่วงสี่เดือนแรกของปี ข้อมูลจากธนาคารกลางแสดงให้เห็นว่ามีสินเชื่อใหม่รวม 10.19 ล้านล้านหยวน ในขณะเดียวกัน การวัดเครดิตและสภาพคล่องยังติดลบอยู่ที่ 2 แสนล้านหยวน ถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2002 

อัตราเงินเฟ้อของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 0.3% ในเดือนเมษายน นับเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อเดือนที่ 3 ติดต่อกัน เนื่องจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างเปราะบางก็ตาม โดยอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ใช่อาหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่มีราคาเพิ่มขึ้นยังคงอยู่ในกลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ขณะเดียวกัน ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น 0.1% หลังจากลดลง 1.3% ในเดือนก่อน เนื่องจากรัฐบาลได้ขึ้นราคาสาธารณูปโภคได้แก่ ก๊าซธรรมชาติและค่าโดยสารรถไฟ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.221, 7.2226, 7.2258

แนวรับสำคัญ: 7.2162, 7.213, 7.2113

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.213 - 7.2162 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2162 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2226 และ SL ที่ประมาณ 7.2113 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 16 พฤษภาคม 2567 19:24 น. GMT+7