บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 24 พฤษภาคม 2567

Create at 4 months ago (May 24, 2024 11:22)

ประกาศการเลือกตั้งสหราชอาณาจักรไม่กระทบความผันผวนทางเศรษฐกิจ

เงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากนายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็กประกาศการเลือกตั้งระดับชาติในวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งต่างจากกำหนดการที่คาดการณ์ไว้ในฤดูใบไม้ร่วง โดยแม้จะประกาศในช่วงจังหวะที่ไม่คาดคิด แต่ปฏิกิริยาของตลาดกลับมีไม่มากนัก โดยพบความผันผวนของออปชั่นเงินสเตอร์ลิงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นในปัจจุบันคาดการณ์ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมอาจจะพ่ายแพ้หลังจากครองอำนาจมา 14 ปี โดยคาดว่าพรรคแรงงานอาจมีแนวโน้มที่จะชนะ และอาจมีการจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ได้รับเสียงข้างมาก

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ตลาดเชื่อว่าความผันผวนเล็กน้อยของค่าเงินปอนด์อันเนื่องมาจากคำมั่นสัญญาในช่วงการรณรงค์หาเสียงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงทิศทางตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมักได้รับอิทธิพลจากข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศและนโยบายของธนาคารกลางเป็นส่วนใหญ่

โดยข้อมูลเงินเฟ้อภาคบริการของสหราชอาณาจักรล่าสุด ซึ่งเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 5.9% ในเดือนเมษายน ได้ส่งผลกระทบมากกว่าข่าวการเลือกตั้ง นำไปสู่การปรับลดความคาดหวังสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ

ตัวเลขเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราเงินเฟ้อด้านบริการที่สูงขึ้น บ่งชี้ว่า BoE อาจเผชิญพื้นที่จำกัดในการปรับลดอัตราเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ตลาดปรับลดการคาดการณ์สำหรับนโยบายแบบผ่อนคลาย โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงเล็กน้อยภายในสิ้นปีนี้ ท่ามกลางความเชื่อมั่นของตลาดโดยรวมที่ยังคงความระมัดระวัง และจับตาไปที่แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางของธนาคารกลางมากกว่าการเมือง

อีกด้าน ผลสำรวจเผยว่านายจ้างในอังกฤษเสนอให้ขึ้นเงินเดือนโดยเฉลี่ยเกือบ 5% ในช่วงสามเดือนก่อนถึงเดือนเมษายน โดยการเติบโตของค่าจ้างที่ยั่งยืนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอัตราเงินเฟ้อ ชี้ให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้ออาจไม่สามารถลดลงได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ธนาคารแห่งอังกฤษติดตามข้อมูลค่าจ้างอย่างใกล้ชิด โดยผู้กำหนดนโยบายส่วนใหญ่รอที่จะเห็นการเติบโตของค่าจ้างรายปีกลับมาที่ช่วง 3-4% ลดลงจาก 6% ล่าสุด ก่อนที่จะพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทางด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนนี้ และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยภาคบริการซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ มีการเติบโตที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 6 เดือน บดบังการฟื้นตัวในภาคการผลิตที่โดดเด่นและดีที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี

อย่างไรก็ดี จากการสำรวจเมื่อวันอังคาร คำสั่งซื้อภาคการผลิตของอังกฤษยังหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางความคาดหวังว่าการเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคตจะค่อยๆ ชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ Rightmove ราคาบ้านในสหราชอาณาจักรพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้ว่าต้นทุนการจำนองจะสูง และอัตราการขึ้นของราคาที่กำลังชะลอตัว

ในทางกลับกัน ธนาคารแห่งอังกฤษ (BoE) ได้จัดสรรเงินจำนวน 16.245 พันล้านปอนด์ (20.64 พันล้านดอลลาร์) ในการทำธุรกรรมซื้อคืน (Repo) ระยะสั้นรายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเข้าซื้อคืนในเดือนตุลาคม 2022 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อรักษาอัตราตลาดเงินให้ใกล้เคียงกับอัตรานโยบายของ BoE ในขณะที่ธนาคารกลางลดปริมาณเงินสำรองผ่านมาตรการเข้มงวดเชิงปริมาณ (QT) โดยผู้ว่าการ แอนดรูว์ เบลีย์เน้นย้ำถึงการใช้ Repo ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกของการจัดการสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของ BoE

อย่างไรก็ดี เนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรที่เพิ่มมากขึ้น กำหนดเวลาในการลดงบดุลของ BoE ยังคงไม่แน่นอน ส่งผลให้การใช้เครื่องมือทางการเงินหรือการซื้อคืนที่เพิ่มขึ้น ได้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องในระบบธนาคารท่ามกลางการขายพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง โดย BoE ซึ่งคล้ายกับธนาคารกลางอื่นๆ ได้กำลังพยายามสร้างสมดุลให้กับการจัดการอัตราดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุลให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน ซึ่งจนถึงตอนนี้ มาตรการ QT ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่น โดย BoE สามารถลดงบดุลลงกว่า 200 พันล้านถึง 760 พันล้านปอนด์ ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ธนาคารรายใหญ่ รวมถึง Goldman Sachs และ Barclays มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรที่ลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้โกลด์แมนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเริ่มตั้งในเดือนสิงหาคม โดยมีการแก้ไขการคาดการณ์ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ที่จำนวนสองครั้งแทนที่สามครั้งก่อนหน้านี้ ขณะที่ Barclays ยังคงแนวโน้มอย่างระมัดระวัง โดยเฝ้าดูข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการคาดการณ์

ทางด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดีตามข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ขึ้นถึงระดับสูงสุดในรอบสองปีในเดือนพฤษภาคม บ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในช่วงกลางของไตรมาสที่สอง นอกจากนี้การขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเกินคาด ส่งสัญญาณถึงความเข้มแข็งของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง และผลักดันให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และทิศทางนโยบายแบบเข้มงวดจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงมุมมองเชิงบวกของเศรษฐกิจท่ามกลางความระมัดระวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายแรงกดดันด้านราคา และตั้งข้อสังเกตถึงแนวโน้มในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ โดยแม้ว่า GDP จะเพิ่มขึ้น 1.6% ต่อปีในไตรมาสที่ 1 แต่ความต้องการนำเข้าที่แข็งแกร่งยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และแม้ว่าข้อมูลในช่วงต้นของไตรมาสที่ 2 จะชี้ให้เห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ แต่ความเชื่อมั่นของธุรกิจยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่บริษัทต่างๆ ระมัดระวังเรื่องอัตราเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้น

ทางด้านผู้ผลิตเผชิญกับต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยดัชนีราคาวัตถุดิบแตะระดับสูงสุดในรอบ 1.5 ปี โดยได้รับแรงหนุนจากราคาที่สูงขึ้นในโลหะ เคมีภัณฑ์ พลาสติก ไม้ พลังงาน และแรงงาน ขณะที่ภาคธุรกิจบริการยังพบว่าต้นทุนพนักงานเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการขึ้นราคาขายเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ทางด้านในตลาดที่อยู่อาศัย ยอดขายบ้านเดี่ยวใหม่ลดลงเกินคาดในเดือนเมษายน เนื่องจากอัตราการจำนองและราคาบ้านที่สูงขึ้น บ่งชี้ถึงการสูญเสียโมเมนตัมในไตรมาสที่ 2 ท่ามกลางยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนเมษายน ตอกย้ำถึงการต่อสู้ของภาคส่วนอสังหาฯ แม้จะพบการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 1 จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD ทรงตัวและมีการซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันได้อย่างต่อเนื่อง จากอัตราผลตอบแทนและความแข็งแกร่งของข้อมูลของทั้งสองประเทศเศรษฐกิจที่ยังคงไม่ต่างกัน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2691, 1.2692, 1.2694      

แนวรับสำคัญ : 1.2687, 1.2686, 1.2684        

30Min Outlook

วิเคราะห์ GBP/USD ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2682 - 1.2687 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2687 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2691 และ SL ที่ประมาณ 1.2679 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2691 - 1.2696 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2701 และ SL ที่ประมาณ 1.2685 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2691 - 1.2696 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2691 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2686 และ SL ที่ประมาณ 1.2699 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2682 - 1.2687 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2677 และ SL ที่ประมาณ 1.2693 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points May 24, 2024 11:02AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.2681 1.2684 1.2686 1.2689 1.2691 1.2694 1.2696
Fibonacci 1.2684 1.2686 1.2687 1.2689 1.2691 1.2692 1.2694
Camarilla 1.2687 1.2688 1.2688 1.2689 1.2689 1.2689 1.269
Woodie's 1.2681 1.2684 1.2686 1.2689 1.2691 1.2694 1.2696
DeMark's - - 1.2685 1.2689 1.269 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES