ยูโรโซนยังคงมีความต้องการด้านแรงงานสูง

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากข้อมูลล่าสุดทำให้ความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดน้อยลงอีกในปีนี้ โดย PMI ยังคงแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมของภาคเอกชนที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 60bps ในปีนี้ ในขณะเดียวกัน รายงานการประชุม FOMC และความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ของ Fed เมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ให้ความคิดเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงทรงตัวต่อไปและจะยังไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังยืดเยื้อต่อไป

ยูโรโซนมีการเกินดุลการค้า 24.1 พันล้านยูโรในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นจาก 19.1 พันล้านยูโรในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการนำเข้าลดลง 12% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 221.3 พันล้านยูโร โดยส่วนใหญ่มาจากการซื้อเชื้อเพลิงแร่, น้ำมันหล่อลื่นและอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องลดลงมากกว่า 15.9% โดยการนำเข้าลดลงจากจีน, สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, รัสเซียและนอร์เวย์ ในขณะเดียวกัน การส่งออกลดลงน้อยกว่าการนำเข้าที่ 9.2%  เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงเป็น 245.4 พันล้านยูโร สาเหตุหลักมาจากการส่งออกเครื่องจักรและอุปกรณ์การขนส่งที่ลดลง

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายแรงงานรายชั่วโมงในเขตยูโรเพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรกของปี 2024 ซึ่งสูงกว่า 3.4% ในช่วงก่อนหน้า โดยค่าจ้างและเงินเดือนต่อชั่วโมงทำงานเพิ่มขึ้น 5% การปรับขึ้นทั้งเงินเดือนและเงินรายชั่วโมงให้เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าเศราฐกิจภายในประเทศยังคงมีการเติบโตและมีความต้องการด้านแรงงานอยู่ นอกจากนี้ยังแสดงถึงความสามารถในการปรับตัวที่ดีของเศรษฐกิจในยูโรโซน

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนได้รับการยืนยันที่ 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน โดยการชะลอตัวส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากต้นทุนด้านการบริการที่ลดลง นอกจากนี้ ราคาพลังงานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องยังเป็นตัวช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาสินค้าส่วนใหญ่ที่ผู้บริโภคจำเป็นต้องซื้อด้วย

มีการคาดการณ์จากคณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า GDP ของสหภาพยุโรปจะเติบโต 1% ในปี 2024 แต่การเติบโตของยูโรโซนยังคงทรงตัวที่ 0.8% ในปี 2025 โดยประเทศที่มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ดีในปี 2024 ได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศสและอิตาลี ในขณะที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปลดลงจาก 6.4% ในปี 2023 เป็น 2.7% ในปี 2024 และลดลงเป็น 2.2% ในปี 2025

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 0.9226, 0.9233, 0.9241

แนวรับสำคัญ: 0.9211, 0.9226, 0.9196

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.9203 - 0.9211 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.9211 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.9233 และ SL ที่ประมาณ 0.9196 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 25 พฤษภาคม 2567 19:51 น. GMT+7