อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นชะลอตัว BOJ มีแนวโน้มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยท่ามกลางการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอ
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่นชะลอตัวเป็นเดือนที่สองในเดือนเมษายน บ่งชี้ว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ BOJ แต่ผู้กำหนดนโยบายยังคงต้องการเห็นอุปสงค์ในประเทศที่ยั่งยืน
ทั้งนี้ ตลาดกำลังประเมินว่าการปรับขึ้นค่าจ้างล่าสุดจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อและดัชนีราคาอย่างไร ขณะที่การอ่อนค่าของเงินเยนอย่างต่อเนื่องนำไปสู่การคาดเดาว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีอยู่ที่ 1% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2013
ทางด้านเงินเยนที่อ่อนค่าลงแม้จะส่งผลดีต่อผู้ส่งออก แต่กลับเพิ่มราคานำเข้า และส่งผลเสียต่อกำลังซื้อและการบริโภคของครัวเรือน โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวในอัตรา 2% ต่อปีในไตรมาสแรก เนื่องจากการบริโภคที่อ่อนแอ โดยค่าจ้างที่แท้จริงลดลงเป็นเวลาสองปีติดต่อกัน และแม้ว่าค่าจ้างที่สูงขึ้นคาดว่าจะช่วยเพิ่มกำลังการใช้จ่าย แต่ก็ยังไม่ได้สะท้อนให้เห็นในข้อมูลรายเดือน
คาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นกล่าวว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในแนวโน้มการฟื้นตัวในระดับปานกลาง และส่งสัญญาณว่าการลดลงของ GDP ในไตรมาสแรกจะไม่ส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ขณะที่ตั้งข้อสังเกตว่าแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องหารือกันต่อไป
ในการประชุม G7 ผู้นำทางการเงินทั้งหลายยืนยันจุดยืนของตนต่อความผันผวนของค่าเงินที่มากเกินไป ขณะที่มาซาโตะ คันดะ นักการทูตด้านเงินตราของญี่ปุ่น ย้ำว่าโตเกียวพร้อมที่จะดำเนินการต่อต้านการเคลื่อนไหวเก็งกำไรที่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่เงินเยนอ่อนค่าลง 11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีนี้ และแม้จะมีการแทรกแซงครั้งก่อน แต่ค่าเงินยังคงอ่อนแอ สร้างความท้าทายสำหรับผู้กำหนดนโยบาย เนื่องจากต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการบริโภคที่ถูกกดดัน ท่ามกลางตลาดที่กำลังจับตาดูการแทรกแซงเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นจากญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนค่าเงินเยน
ทั้งนี้ จากการสำรวจของรอยเตอร์ นักเศรษฐศาสตร์เกือบสองในสามคาดว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) จะเริ่มลดการซื้อพันธบัตรภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม และเกือบ 90% คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.20% ภายในสิ้นปี โดยแม้จะยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบในเดือนมีนาคม แต่ BOJ ยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 6 ล้านล้านเยน (38.3 พันล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เพื่อป้องกันการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทน
ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ตั้งเป้าที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศโดยให้คำมั่นว่าจะปฏิรูปตลาดทุนและส่งเสริมการจัดการสินทรัพย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำให้ญี่ปุ่นเป็นตลาดที่น่าลงทุนมากขึ้น โดยการจัดตั้งเขตธุรกิจพิเศษในโตเกียว โอซาก้า ฟุกุโอกะ และซัปโปโร เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์ทางการเงินในครัวเรือนมูลค่า 13 ล้านล้านดอลลาร์ของประเทศจากเงินสดไปสู่การลงทุนที่มีประสิทธิผลมากขึ้น
อีกด้าน บริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นตกลงที่จะขึ้นค่าจ้างเฉลี่ย 5.58% ในเดือนมีนาคม มากที่สุดในรอบ 33 ปี โดยได้แรงหนุนจากการขาดแคลนแรงงานและราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้น โดยการเติบโตของค่าจ้างนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของญี่ปุ่นในการเพิ่มผลกำไรและการกำกับดูแลกิจการ
ทางด้านกิจกรรมโรงงานของญี่ปุ่นขยายตัวในเดือนพฤษภาคมเป็นครั้งแรกในรอบปี ท่ามกลางผลกำไรจากภาคการผลิตที่ชดเชยภาคบริการที่ลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม มุมมองของผู้ผลิตยังคงลดลงเนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในด้านต้นทุนวัตถุดิบและราคาผลผลิต ขณะที่อัตราเงินเฟ้อการค้าส่งระหว่างธุรกิจกับธุรกิจยังคงทรงตัวในเดือนเมษายน โดยคาดว่าจะมีการเร่งตัวขึ้น
นอกจากนี้ การส่งออกของญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนเมษายน โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน แม้ว่าปริมาณการส่งออกจะประสบปัญหาเนื่องจากความต้องการที่ลดลงจากตลาดหลักๆ เช่น สหรัฐฯ และจีน โดยแม้ว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อเร็วๆ นี้ แต่อุปสงค์ในจีนยังคงฟื้นตัวได้ช้า และส่งผลให้เกิดการขาดดุลการค้าของญี่ปุ่น ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในอัตราที่ช้ากว่าที่คาด และสะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซา
ทางด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งยังคงสนับสนุนแนวโน้มการแข็งค่าของเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง และลดความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เดือนเมษายนพบยอดคำสั่งซื้อใหม่และการจัดส่งสำหรับสินค้าทุนที่ผลิตในสหรัฐฯ ฟื้นตัวสูงกว่าคาด บ่งชี้ถึงการใช้จ่ายทางธุรกิจด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงต้นไตรมาสที่สอง หลังจากข้อมูลเมื่อวันพฤหัสบดีแสดงถึงกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ที่เร่งตัวเร็วที่สุดในรอบกว่าสองปี และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ผลิต
อย่างไรก็ดี ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญ จะถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด ถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ท่ามกลางตลาดที่เริ่มยอมรับวาทกรรมของการคงอัตราดอกเบี้ยให้ "สูงและยาวนาน" มากขึ้น หนุนด้วยท่าทีที่ระมัดระวังจากเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงไม่มั่นใจว่าแนวโน้มเงินเฟ้อจะลดลง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดหลายราย รวมถึงผู้ว่าการ มิเชล โบว์แมนและประธานเฟดของนิวยอร์ก จอห์น วิลเลียมส์มีกำหนดแถลงการณ์ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าจะให้เบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินได้ ขณะที่ปฏิทินเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วยข้อมูลการเติบโตของไตรมาสแรกที่ได้รับการแก้ไขและ Beige Book ของเฟด
ทางด้านข้อมูลเงินเฟ้อของโตเกียวที่มีกำหนดรายงายในวันศุกร์จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางตลาดที่คาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในการประชุมที่กำลังจะมีขึ้น ขณะที่กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นจะเปิดเผยข้อมูลการแทรกแซงและกำหนดการซื้อพันธบัตรของ BOJ ซึ่งนักลงทุนได้คาดการณ์ถึงการลดการซื้อพันธบัตรที่อาจเกิดขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 156.77, 156.8 0, 156.84
แนวรับสำคัญ : 156.69, 156.66, 156.62
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 156.64 – 156.69 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 156.69 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.80 และ SL ที่ประมาณ 156.61 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 156.77 – 156.82 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.93 และ SL ที่ประมาณ 156.67 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 156.77 – 156.82 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 156.77 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.69 และ SL ที่ประมาณ 156.85 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 156.64 – 156.69 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.55 และ SL ที่ประมาณ 156.79 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points May 27, 2024 10:52AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 156.58 | 156.62 | 156.69 | 156.73 | 156.8 | 156.84 | 156.91 |
Fibonacci | 156.62 | 156.66 | 156.69 | 156.73 | 156.77 | 156.8 | 156.84 |
Camarilla | 156.72 | 156.73 | 156.74 | 156.73 | 156.76 | 156.77 | 156.78 |
Woodie's | 156.58 | 156.62 | 156.69 | 156.73 | 156.8 | 156.84 | 156.91 |
DeMark's | - | - | 156.7 | 156.74 | 156.81 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ