ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวานนี้ เพื่อห้ามการทำธุรกรรมกับแอพพลิเคชันซอฟท์แวร์ของจีน 8 ราย รวมถึง อาลีเพย์ของบริษัทแอนท์ กรุ๊ป ซึ่งจะเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนก่อนที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่จะเข้ารับตำแหน่งในเดือนนี้
คำสั่งดังกล่าวมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐกำหนดเกี่ยวกับธุรกรรมที่จะถูกสั่งห้าม โดยมุ่งเป้าไปที่แอพพลิเคชัน 8 รายของบริษัทจีนซึ่งได้แก่อาลีเพย์ แคมสแกนเนอร์ คิวคิววอลเลท แชร์ไอที เทนเซนต์ คิวคิว วีเมท วีแชท เพย์ และดับเบิลยูพีเอส ออฟฟิศ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเปิดเผยว่า คำสั่งดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อควบคุมภัยคุกคามของชาวอเมริกันที่เกิดจากแอพพลิเคชันซอฟท์แวร์ต่างๆของจีนซึ่งมีฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ และสามารถเข้าถึงข้อมูลที่อ่อนไหว
คำสั่งระบุว่า สหรัฐต้องดำเนินการอย่างแข็งกร้าวกับแอพเหล่านี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของประเทศ โดยคำสั่งดังกล่าวได้ให้เวลากระทรวงพาณิชย์สหรัฐ 45 วันในการดำเนินการเพื่อห้ามการทำธุรกรรมกับแอพเหล่านี้ แต่ทางกระทรวงวางแผนที่จะดำเนินการก่อนวันที่ 20 ม.ค.นี้ซึ่งเป็นวันที่ปธน.ทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเปิดการซื้อขายวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามทำธุรกรรมกับบริษัทจีน ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3530.91 จุด เพิ่มขึ้น 2.23 จุด, +0.06%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,102.85 จุด ลดลง 55.78 จุด, -0.20% และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,613.34 จุด ลดลง 36.52 จุด, -0.13%
นักลงทุนยังคงจับตาหุ้นเทนเซ็นต์และอาลีบาบา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับแอปพลิเคชันของจีน รวมทั้งสิ้น 8 รายการ ซึ่งรวมถึงวีแชทของบริษัทเทนเซ็นต์ และอาลีเพย์ของแอนท์ กรุ๊ป ในเครือของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง โดยคำสั่งดังกล่าวคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 45 วัน หลังจากที่ปธน.ทรัมป์พ้นจากตำแหน่งแล้ว
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ให้เหตุผลว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวมีการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน และเป็นเครื่องมือที่ของรัฐบาลจีนใช้ติดตามตำแหน่งที่ตั้งของเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล