หุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ กองทุนเฮดจ์ฟันด์เพิ่มแรงเทขาย

หุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญที่มีกำหนดเผยแพร่ในปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายต่ำเนื่องจากวันหยุดวันรำลึก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับรายงานทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่กำลังจะมาถึง ซึ่งรวมไปถึงข้อมูล GDP ไตรมาสแรกที่ได้รับการแก้ไข และข้อมูลรายจ่ายพื้นฐานการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรการวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดจับตาดูอย่างใกล้ชิด

โดยเมื่อวันจันทร์ หุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สาธารณูปโภค และวัสดุพื้นฐาน ท่ามกลางดัชนี NASDAQ Composite ที่ได้รับแรงหนุนจาก NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA) และปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยทั้งดัชนี S&P 500 และ Dow Jones Industrial Average ยังคงเคลื่อนที่เข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ถูกจำกัดด้วยการขาดทุนในภาคส่วนธุรกิจอื่นๆ ซึ่งส่วนหนึ่งเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นเวลานาน ซึ่งได้ลดความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น หุ้น และได้จำกัดสภาพคล่องของตลาด

อีกด้าน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ล่าสุด ได้ขายหุ้นสหรัฐฯ ในอัตราที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม และพลิกกลับแนวโน้มการซื้อสุทธิที่ยาวนานติดต่อกันห้าสัปดาห์ โดยการกลับตัวที่เกิดขึ้น ซึ่งถูกรายงานโดยโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ชั้นนำของ Goldman Sachs เป็นผลมาจากการเทขายออกอันเนื่องมาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจเชิงบวกล่าสุด และจุดยืนที่มั่นคงของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการรักษาอัตราดอกเบี้ยที่สูงเป็นระยะเวลาที่ขยายออกไป

ทั้งนี้ การขายออกได้ครอบคลุมทั้ง 11 กลุ่มภาคส่วนธุรกิจของสหรัฐฯ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พฤษภาคม โดยพบการเทขายหนักที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศ การเงิน พลังงาน วัสดุ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งภาคธุรกิจกลุ่มวัฏจักรเผชิญกับการเทขายที่รุนแรงเป็นพิเศษ และถือเป็นยอดการขายออกสุทธิที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงเครื่องจักร การขนส่งภาคพื้นดิน การบริการระดับมืออาชีพ และสายการบินโดยสาร ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด โดยพบยอดขายสุทธิติดต่อกัน 11 เซสชั่นและเป็นยอดขายสุทธิในช่วงสองสัปดาห์ที่สูงที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ

ขณะเดียวกัน เมื่อวันอังคาร ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยแต่ยังคงอยู่ในกรอบแคบๆ เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ก่อนการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อจากประเทศเศรษฐกิจหลักๆ โดยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดยังมีความหลากหลาย และทำให้เกิดความไม่แน่นอนในหมู่ผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับช่วงเวลาและขอบเขตของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ นักลงทุนได้ปรับการคาดการณ์ โดยปัจจุบันกำหนดราคาความน่าจะเป็นที่ 50.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ และโอกาส 43.6% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 25 จุด ตามเครื่องมือ CME Fedwatch โดยแม้จะมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเย็นตัวลงเล็กน้อย แต่คาดว่าจะยังคงสูงกว่ากรอบเป้าหมายประจำปีของเฟดที่ 2% จึงอาจส่งผลให้มุมมองเชิงบวกของตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยรวมคาดว่าจะถูกจำกัดได้เล็กน้อยในช่วงนี้ ท่ามกลางความผันผวนและความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 39098.4, 39101.0, 39105.2

แนวรับสำคัญ : 39090.0, 39087.4, 39083.2         

1H Outlook

ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 39080.0 - 39090.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 39090.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39100.9 และ SL ที่ประมาณ 39075.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 39098.4 - 39108.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39124.0 และ SL ที่ประมาณ 39085.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 39098.4 - 39108.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 39098.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39089.9 และ SL ที่ประมาณ 39113.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 39080.0 - 39090.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 39072.0 และ SL ที่ประมาณ 39103.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points May 28, 2024 10:09AM GMT+7