ECB คาดลดอัตราดอกเบี้ยสัปดาห์หน้า จากการคาดการณ์เงินเฟ้อยูโรโซนที่ลดลง
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ตามที่ได้รับการยืนยันโดยสมาชิก ECB ฟรองซัวส์ วิลเลรอย เดอ กัลเฮา ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของตลาด ขณะที่นักลงทุนได้ปรับการคาดการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2024 และต้นปี 2025
ทั้งนี้ จากผลสำรวจของ ECB เปิดเผยว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคยูโรโซนลดลงเล็กน้อย โดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 ขณะที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลดลงเหลือ 2.9% และในอีก 3 ปีข้างหน้าเหลือ 2.4% ซึ่งยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB ท่ามกลางการคาดการณ์ด้านรายได้ที่ยังคงทรงตัว และผู้บริโภคที่มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและการว่างงาน บ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่มีความเสถียรภาพ ซึ่งแม้ว่า ECB คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่การเติบโตของค่าจ้างจากการเจรจาที่เพิ่มขึ้นทั่วยูโรโซนได้ส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน IMF แนะนำให้เยอรมนีพิจารณาผ่อนคลายการจำกัดหนี้เพื่อให้การใช้จ่ายภาครัฐเพิ่มขึ้น โดย IMF แนะนำว่าการผ่อนคลายการเติบโตของ GDP 1% สามารถสร้างการลงทุนได้โดยไม่ต้องเพิ่มอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP
ทั้งนี้ แนวโน้มเดือนเมษายนของ IMF ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ของเยอรมนีลงเหลือ 0.2% ในปี 2024 และ 1.3% ในปี 2025 โดยคาดว่าจะพบการฟื้นตัวที่ช้าจากการบริโภคอันเนื่องมาจากอัตราเงินเฟ้อที่ผ่อนคลายลง และคาดว่าการเติบโตจะแข็งแกร่งขึ้นในปี 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชนและนโยบายการเงินที่เข้มงวดในระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชากรสูงวัยมีแนวโน้มชะลอการเติบโตลงเหลือประมาณ 0.7% ต่อปีในระยะกลาง
ในเดือนพฤษภาคม ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีซบเซา บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้า โดยกิจกรรมภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากภาคบริการ แม้ว่าภาคการผลิตจะยังคงอ่อนแอ ขณะที่ราคาผู้ผลิตของเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนเมษายน โดยมีสาเหตุหลักมาจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และแม้จะมีการคาดการณ์ถึงเศรษฐกิจชะลอตัวในปี 2024 แต่การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโต 1% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อลดลงเหลือ 2.3% ท่ามกลางราคาที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะลดลง 2% ในปีนี้ เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมลดลงและอุปทานที่อยู่อาศัยราคาถูกที่ยังคงมีจำกัด
ในฝรั่งเศส ภาคเอกชนหดตัวในเดือนพฤษภาคมหลังจากการเติบโตในเดือนเมษายน โดยทั้งภาคบริการและการผลิตประสบภาวะถดถอย ขณะที่เศรษฐกิจฝรั่งเศสคาดว่าจะเติบโตเล็กน้อยในไตรมาสที่สอง หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในไตรมาสแรก
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันตลาดคาดว่าจะมีการปรับอัตราพื้นฐานประมาณ 60 จุด ซึ่งจะทำให้อัตรามาตรฐานของ ECB อยู่ที่ประมาณ 3.4% ภายในเดือนธันวาคม ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีของเยอรมนี ซึ่งอ่อนไหวต่อการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และสูงกว่าระดับ 3% ซึ่งสะท้อนถึงการเพิ่มขึ้นเกือบ 70% ในปีนี้
ทางด้านค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ จากความต้องการที่อ่อนแอสำหรับการประมูลพันธบัตรอายุสองปีและห้าปี หลังจากการเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ลดลงสามเดือนก่อนหน้านี้ ปรับตัวดีขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคม ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวได้ทำให้แนวโน้มการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ลดน้อยลง
โดยแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อของราคาผู้บริโภคในเดือนเมษายนจะต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งทำให้เกิดความหวังที่อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่เจ้าหน้าที่เฟดยังคงเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเฝ้ารอดูตัวเลขอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ก่อนที่จะเริ่มผ่อนคลายนโยบาย ท่ามกลางผู้บริโภคจำนวนมากที่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเกิดขึ้นได้ภายในปีหน้า แม้ว่าจะยังคงมุมมองในแง่ดีเกี่ยวกับตลาดหุ้นและวางแผนที่จะซื้อเครื่องใช้ในครัวเรือนขนาดใหญ่ในอนาคต
ทั้งนี้ ประเด็นเศรษฐกิจหลักประจำสัปดาห์นี้จะอยู่ที่รายงานการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นมาตรการเงินเฟ้อที่ เฟดให้ความสำคัญ ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินยูโรอาจยังคงแนวโน้มถูกกดดันอยู่ในช่วงนี้ จากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ที่มาถึงเร็วกว่าสหรัฐฯ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0852, 1.0854, 1.0857
แนวรับสำคัญ : 1.0846, 1.0844, 1.0841
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0841 - 1.0846 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0846 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0852 และ SL ที่ประมาณ 1.0839 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0852 - 1.0857 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0865 และ SL ที่ประมาณ 1.0843 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0852 - 1.0857 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0852 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0844 และ SL ที่ประมาณ 1.0859 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0841 - 1.0846 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0830 และ SL ที่ประมาณ 1.0855 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points May 29, 2024 10:01AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0836 | 1.0841 | 1.0844 | 1.0849 | 1.0852 | 1.0857 | 1.086 |
Fibonacci | 1.0841 | 1.0844 | 1.0846 | 1.0849 | 1.0852 | 1.0854 | 1.0857 |
Camarilla | 1.0844 | 1.0845 | 1.0846 | 1.0849 | 1.0847 | 1.0848 | 1.0849 |
Woodie's | 1.0834 | 1.084 | 1.0842 | 1.0848 | 1.085 | 1.0856 | 1.0858 |
DeMark's | - | - | 1.0842 | 1.0848 | 1.085 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ