อัตราเงินเฟ้อในอังกฤษเริ่มทรงตัว ราคาร้านค้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2.5 ปี
ตามรายงานจาก British Retail Consortium (BRC) ราคาในร้านค้าในอังกฤษเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2.5 ปีในเดือนนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงการกลับสู่ระดับเงินเฟ้อปกติ โดยอัตราเงินเฟ้อราคาร้านค้าประจำปีชะลอตัวลงเหลือ 0.6% ในเดือนพฤษภาคมจาก 0.8% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2021 ขณะที่ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหารลดลง 0.8% ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารลดลงเหลือ 3.2% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของอังกฤษ ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ต้องเผชิญกับการเติบโตที่ต่ำและอัตราเงินเฟ้อที่สูง ความท้าทายของ Brexit และการฟื้นตัวจากโควิด-19 รวมถึงราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นจากผลกระทบจากยูเครน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อค่อยๆ ทรงตัว โดยราคาผู้บริโภครายปีเดือนเมษายนเติบโต 2.3% ใกล้กับเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางอังกฤษ ท่ามกลาง CPI พื้นฐานที่ยังคงสูงที่ 3.9%
ทางด้านการคาดการณ์ของสาธารณะเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อในปีหน้าจากการสำรวจของ Citi/YouGov ลดลงเหลือ 3.1% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 ขณะที่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวลดลงเหลือ 3.2% ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษที่กำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงไม่มั่นใจว่าธนาคารแห่งอังกฤษจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการคาดการณ์ว่า CPI จะเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยความสนใจล่าสุดอยู่ที่การประชุมในเดือนสิงหาคม ซึ่งนักวิเคราะห์ของ Danske Bank คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนสิงหาคม ท่ามกลางการเลือกตั้งที่ใกล้เข้ามา
อีกด้าน การผลิตรถยนต์ของอังกฤษลดลง 7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน เนื่องจากผู้ผลิตที่เปลี่ยนมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยในเดือนเมษายน พบการผลิตรถยนต์ 61,820 คัน ลดลงจาก 66,527 คันในปีที่แล้ว
ทางด้านการเติบโตของภาคบริการของสหราชอาณาจักรชะลอตัวลงในเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตาม ธุรกิจต่างๆ ยังคงมุมมองเชิงบวก โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยและการเติบโตที่ลดลง โดยตามการรายงานจาก Lloyds Bank Business Barometer ธุรกิจในอังกฤษมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และมีแผนการจ้างงานที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งมุมมองเชิงบวกดังกล่าวขององค์กรธุรกิจได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2015 โดยได้แรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะลดลง
ทางด้านราคาบ้านในอังกฤษคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้ และแซงหน้าอัตราเงินเฟ้อในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการลดต้นทุนการกู้ยืมและอุปทานที่จำกัด โดยการเติบโตของค่าจ้างคาดว่าจะแซงหน้าราคาที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% ในปี 2024 ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความสามารถในการจับจ่ายสำหรับผู้ซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรก แม้จะยังคงมีปัญหาด้านอุปทานอย่างต่อเนื่องก็ตาม
ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในวันพุธ โดยดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบสองเดือน ก่อนการรายงานนโยบายการเงิน โดยการแข็งค่าของเงินดอลลาร์เป็นไปตามข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ดีดตัวขึ้นในเดือนพฤษภาคม ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนต่อการผ่อนคลายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ ซึ่งจนถึงปี 2023 เงินดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้นมากกว่า 3% เนื่องจากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ และส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดไว้
ทั้งนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นักลงทุนได้คาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดฟิวเจอร์สในปัจจุบันส่งสัญญาณของการผ่อนคลายที่อาจเริ่มในเดือนกันยายน โดยรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ยังคงถูกจับตามองเป็นพิเศษ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจนโยบายของเฟด ซึ่งมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดในสัปดาห์ที่แล้วแสดงอัตราอยู่ที่ 2.7% สูงกว่าเป้าหมาย 2.0% และบ่งบอกถึงการแข็งค่าของเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง
ทางด้านการจ้างงานภาคเอกชนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนพฤษภาคม โดยบริษัทขนาดเล็กตัดลดพนักงานและปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้น ส่งสัญญาณถึงตลาดงานที่อาจกำลังเย็นตัวลง โดย ADP รายงานการจ้างงานภาคเอกชนในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 152,000 ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 175,000
อีกด้าน ภาคบริการของสหรัฐฯ กลับมาเติบโตในเดือนพฤษภาคมหลังจากหดตัวในเดือนเมษายน โดยมาตรวัดกิจกรรมทางธุรกิจแสดงให้เห็นการปรับปรุงของกิจกรรมที่สูงที่สุดในรอบสามปี โดยแม้จะพบการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าลง แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 3.9% ตอกย้ำความจำเป็นของเฟดในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคาดว่าจะไม่สามารถแตะกรอบเป้าหมาย 2% ของเฟดได้จนกว่าจะถึงปี 2026 เป็นอย่างน้อย ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่กำลังจะมาถึง พร้อมด้วยการรายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจเพิ่มเติม จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD มีการซื้อขายขึ้นลงในกรอบบนได้ต่อเนื่องอีกเล็กน้อยในช่วงนี้ โดยแนวโน้มขาขึ้นคาดว่าจะยังคงถูกจำกัดในระยะถัดไป
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2794, 1.2804, 1.2820
แนวรับสำคัญ : 1.2762, 1.2752, 1.2736
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2722 - 1.2762 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2762 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2802 และ SL ที่ประมาณ 1.2702 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2794 - 1.2834 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2860 และ SL ที่ประมาณ 1.2742 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2794 - 1.2834 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2794 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2760 และ SL ที่ประมาณ 1.2854 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2722 - 1.2762 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2688 และ SL ที่ประมาณ 1.2814 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jun 6, 2024 03:48PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2717 | 1.2736 | 1.276 | 1.2778 | 1.2802 | 1.282 | 1.2844 |
Fibonacci | 1.2736 | 1.2752 | 1.2762 | 1.2778 | 1.2794 | 1.2804 | 1.282 |
Camarilla | 1.2773 | 1.2777 | 1.2781 | 1.2778 | 1.2789 | 1.2793 | 1.2797 |
Woodie's | 1.2721 | 1.2738 | 1.2764 | 1.278 | 1.2806 | 1.2822 | 1.2848 |
DeMark's | - | - | 1.277 | 1.2783 | 1.2812 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ