บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 10 มิถุนายน 2567

Create at 4 months ago (Jun 10, 2024 10:57)

GDP ไตรมาส ญี่ปุ่นหดตัวน้อยลง ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อและค่าจ้างที่ยังคงอยู่

เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยในไตรมาสแรก โดยพบการใช้จ่ายด้านทุนลดลงน้อยกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอจะยังคงกดดัน โดยจากข้อมูลที่ปรับปรุงล่าสุดพบ GDP หดตัว 1.8% ต่อปี ซึ่งดีกว่าประมาณการเบื้องต้นที่ 2.0% และการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.9% ขณะที่ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนลดลง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งดีขึ้นจากประมาณการเบื้องต้นที่คาดว่าจะลดลง 0.8%

ในเดือนพฤษภาคม อัตราเงินเฟ้อดัชนีราคาผู้บริโภคของโตเกียวเป็นไปตามความคาดหวัง โดยพบการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่สำคัญลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2022 ทำให้เกิดความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ทางด้านค่าจ้างที่แท้จริงลดลง 0.7% ในเดือนเมษายน ซึ่งถือเป็นการลดลงรายเดือนติดต่อกันเป็นครั้งที่ 25 แม้ว่าอัตราการลดลงจะชะลอตัวลงจาก 2.1% ในเดือนมีนาคมก็ตาม โดยการลดลงนี้ได้รับแรงหนุนจากอัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคที่แซงหน้าการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง ซึ่งยังคงเป็นข้อกังวลสำหรับผู้กำหนดนโยบายที่มุ่งเป้าไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน แม้ว่าการเติบโตจะยังคงไม่สูงมากนักเนื่องจากผู้บริโภคใช้ความระมัดระวังของอย่างต่อเนื่องท่ามกลางดัชนีราคาที่สูง

ขณะเดียวกัน ภาคบริการของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคมแม้จะยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยพบการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่ได้รับแรงหนุนจากการท่องเที่ยวและเงินเยนที่อ่อนค่า ขณะที่กิจกรรมโรงงานขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบปี แม้ว่าการเติบโตจะอยู่ในระดับปานกลาง จากปัญหาด้านอุปสงค์และต้นทุนการผลิตที่สูงเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยน โดยผู้ผลิตยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับโอกาสในอนาคต แม้ว่าต้นทุนแรงงานและวัตถุดิบจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านคณะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ แนะนำให้ระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการอ่อนค่าของเงินเยน โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อและต้นทุนครัวเรือน โดยร่างแผนปฏิบัติการของคณะที่ปรึกษาเน้นย้ำถึงความจำเป็นของแรงสนับสนุนจากรัฐบาลในการขยายธุรกิจเนื้อหาบันเทิงของญี่ปุ่น โดยสังเกตว่าการขายเนื้อหาดังกล่าวในต่างประเทศในปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่าการส่งออกเหล็กของญี่ปุ่น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้สั่งให้รัฐบาลร่างแผนเศรษฐกิจและการคลังระยะ 6 ปีที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเปลี่ยนเศรษฐกิจญี่ปุ่นจากเศรษฐกิจที่เน้นการลดต้นทุน ไปสู่เศรษฐกิจที่ส่งเสริมผลิตภาพและการลงทุน โดยแผนนี้ ซึ่งมีกำหนดเริ่มในเดือนเมษายน 2025 ตั้งเป้าการเติบโตที่แท้จริงต่อปีมากกว่า 1% ท่ามกลางการรักษาสุขภาพทางการคลังเอาไว้ โดยแผนงานทางการคลังระยะยาวของรัฐบาลคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้

โดยแบบร่างแผนเศรษฐกิจดังกล่าวตั้งข้อสังเกตถึงการบริโภคที่ยังคงซบเซาและเน้นย้ำถึงความเสี่ยงภายนอก รวมถึงการใช้นโยบายทางการเงินแบบเข้มงวดทั่วโลกและการเติบโตที่ชะลอตัวในจีน ขณะที่กล่าวถึงกฎหมายที่กำลังร่างขึ้นเพื่อส่งเสริมการส่งผ่านต้นทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนญี่ปุ่นจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มภาวะเงินฝืดไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยผลผลิต ราคาและค่าจ้างที่สูงขึ้น

ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อูเอดะ ได้เสนอแนะลดการซื้อพันธบัตรในวงกว้างของธนาคารกลาง หลังจากค่อยๆ ยุติมาตรการกระตุ้นทางการเงินครั้งใหญ่ และการยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบ รวมถึงการควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยอูเอดะได้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ในการซื้อพันธบัตรที่ลดลง ซึ่งอาจเริ่มเร็วที่สุดในการประชุมนโยบายครั้งถัดไป แม้ว่าปัจจุบัน BOJ จะมีงบดุลอยู่ที่ 4.8 ล้านล้านดอลลาร์ แต่อูเอดะยังคงไม่ได้ระบุกรอบเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการลดการซื้อพันธบัตรที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจมีการปรับลดการซื้อพันธบัตร 1 ล้านล้านเยนต่อเดือน

ทางด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในวันศุกร์ สูงที่สุดในรายสัปดาห์ หลังจากที่ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดแรงงานบางส่วนจะยังคงอ่อนตัวลง บ่งชี้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างที่สูงกว่าที่คาดอาจบ่งบอกถึงอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ ท่ามกลางการว่างงานที่เพิ่มขึ้นที่อาจช่วยบรรเทาความกังวล

โดยการอัปเดตข้อมูลตลาดแรงงานอื่นๆ ยังรวมไปถึงการเปิดรับตำแหน่งงานต่ำสุดในรอบสามปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพฤษภาคม ท่ามกลางการเติบโตของค่าจ้างรายปีที่เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของตลาดแรงงาน ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.0% จาก 3.9% ในเดือนเมษายน ทำลายสถิติสูงสุดในรอบ 27 เดือนที่ต่ำกว่า 4%

อีกด้าน ในเดือนเมษายน การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.7% มาอยู่ที่ 74.6 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นแซงหน้าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรกเล็กน้อย และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดได้ส่งสัญญาณไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยแม้ว่าที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้อจะเย็นตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงไม่ถึงเป้าหมาย 2% ซึ่งตัวเลขเงินเฟ้อของเดือนพฤษภาคมที่มีกำหนดเผยแพร่ก่อนแถลงการณ์ของเฟดในวันพุธ อาจส่งผลให้การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น หากข้อมูลดังกล่าวบ่งบอกถึงแรงผ่อนคลายมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ความน่าจะเป็นของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนได้ลดลงเหลือ 45% จาก 55% ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันในการประชุมนโยบายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยจุดสนใจของตลาดจะเปลี่ยนไปที่จำนวนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ไว้ในช่วงที่เหลือของปี 2024 ซึ่งมีแนวโน้มที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดสองครั้ง ลดลงจากสามครั้งที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จึงอาจส่งผลให้เงินเยนมีโอกาสกลับตัวและแข็งค่าขึ้นได้จากกรอบราคาปัจจุบัน หากท่าทีนโยบายทางการเงินและการคลังญี่ปุ่นเป็นไปในทิศทางที่เข้มงวดและผ่อนคลายตามลำดับ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 157.18, 157.24, 157.32

แนวรับสำคัญ : 157.02, 156.96 , 156.88                  

30Min Outlook                   

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: TradingView                                          

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 156.92 – 157.02 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 157.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 157.23 และ SL ที่ประมาณ 156.87 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 157.18 – 157.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 157.45 และ SL ที่ประมาณ 156.97 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 157.18 – 157.28 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 157.18 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 157.01 และ SL ที่ประมาณ 157.33 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 156.92 – 157.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 156.79 และ SL ที่ประมาณ 157.23 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 10, 2024 10:33AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 156.79 156.88 157.01 157.1 157.23 157.32 157.45
Fibonacci 156.88 156.96 157.02 157.1 157.18 157.24 157.32
Camarilla 157.06 157.08 157.1 157.1 157.15 157.17 157.19
Woodie's 156.79 156.88 157.01 157.1 157.23 157.32 157.45
DeMark's - - 157.05 157.12 157.27 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES