ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนการตัดสินใจจากเฟด
เมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้น นำโดยกลุ่มสาธารณูปโภค น้ำมันและก๊าซ และการบริการผู้บริโภค ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นในภาคเทคโนโลยี ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อที่กำลังจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนพฤษภาคมได้กดดันตลาดหุ้นที่ผ่านมา และส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 15 จุด
ทางด้านหุ้นของ Southwest Airlines (NYSE:LUV) พุ่งขึ้น 7% หลังจากที่ Elliott Investment Management เปิดเผยสัดส่วนการถือหุ้น 1.9 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานของสายการบิน ขณะที่หุ้นของ Nvidia (NASDAQ:NVDA) เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากการแตกพาร์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่อาจถูกรวมอยู่ในดัชนี Dow และ AMD (NASDAQ:AMD) ลดลงมากกว่า 4% เนื่องจากการดาวน์เกรดการคาดการณ์โดย Morgan Stanley ในทางกลับกัน หุ้นของ Apple (NASDAQ:AAPL) ลดลงเกือบ 2% แม้ว่าจะเพิ่งเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ในงานประชุมกลุ่มนักพัฒนา
อีกด้าน หุ้น Huntington Bancshares Incorporated (NASDAQ:HBAN) ลดลงมากกว่า 6% ซึ่งส่งผลกระทบต่อธนาคารในภูมิภาคและภาคการเงินในวงกว้าง หลังจากปรับลดประมาณการรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลง ขณะที่ธนาคารในภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งรวมถึง Regions Financial Corporation (NYSE:RF), PNC Financial Services Group Inc (NYSE:PNC) และ KeyCorp (NYSE:KEY) ปรับตัวลดลงเช่นกัน
ทั้งนี้ แม้ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ใกล้จะสิ้นสุดลง แต่ยังคงมีการรายงานผลประกอบการที่สำคัญที่จะถูกจับตามองเป็นพิเศษในสัปดาห์นี้ จาก Oracle Corporation (NYSE:ORCL), Broadcom Inc (NASDAQ:AVGO) และ Adobe Systems Incorporated (NASDAQ:ADBE) ซึ่งจะมีความสำคัญไม่เพียงแต่ในแง่ของผลการดำเนินงานของแต่ละบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการส่งสัญญาณข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาคส่วน AI ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
โดยในวันพุธนี้จะมีกำหนดการแถลงจากประธานเจอโรม พาวเวลล์ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ประจำเดือนมิถุนายน ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญที่มีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ และรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ และการเปิดเผยการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงิน ขณะที่นักลงทุนมองหาสัญญาณที่จะบ่งชี้ถึงจังหวะและเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าเฟดจะสามารถจัดการอัตราเงินเฟ้อได้โดยไม่ขัดขวางการเติบโตทางเศรฐกิจ ท่ามกลางข้อมูลทางเศรษฐกิจที่ขัดแย้งกัน อย่างรายงานการจ้างงานที่แข็งแกร่ง การชะลอตัวของภาคการผลิตและการปรับลดการคาดการณ์การเติบโตในไตรมาสแรก ซึ่งส่งผลให้แนวโน้มตลาดหุ้นและการซื้อขายมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 38814.8, 38819.9, 38828.2
แนวรับสำคัญ : 38798.2, 38793.1, 38784.8
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 38788.2 - 38798.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 38798.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38814.8 และ SL ที่ประมาณ 38783.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 38814.8 - 38824.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38840.0 และ SL ที่ประมาณ 38793.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 38814.8 - 38824.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 38814.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38792.7 และ SL ที่ประมาณ 38830.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 38788.2 - 38798.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 38760.0 และ SL ที่ประมาณ 38820.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jun 11, 2024 09:54AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 38771 | 38784.8 | 38792.7 | 38806.5 | 38814.4 | 38828.2 | 38836.1 |
Fibonacci | 38784.8 | 38793.1 | 38798.2 | 38806.5 | 38814.8 | 38819.9 | 38828.2 |
Camarilla | 38794.7 | 38796.7 | 38798.7 | 38806.5 | 38802.7 | 38804.7 | 38806.7 |
Woodie's | 38768.2 | 38783.4 | 38789.9 | 38805.1 | 38811.6 | 38826.8 | 38833.3 |
DeMark's | - | - | 38788.8 | 38804.6 | 38810.5 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ