บทวิเคราะห์ EUR/USD วันที่ 12 มิถุนายน 2567

Create at 4 months ago (Jun 12, 2024 10:48)

ความเสี่ยงทางการเมืองส่งผลต่อเงินยูโร

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25 จุดเหลือ 3.75% ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าว ผู้กำหนดนโยบายตั้งเป้าหมายเพื่อจัดการกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในเขตยูโร แม้ว่าต้นทุนการกู้ยืมในอนาคตจะยังคงไม่แน่นอนเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ผันผวน

ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินการลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB ว่ามีความ "เหมาะสม" แต่แนะนำให้รักษาแนวทางการปรับเปลี่ยนนโยบายโดยอ้างอิงจากข้อมูล ขณที่คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB เน้นย้ำว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะไม่มีความแน่นอน และอาจไม่เกิดขึ้นในการประชุมทุกครั้ง โดย ECB ตั้งใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมายระยะกลางที่ 2% อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์การปรับเปลี่ยนนโยบายที่ขึ้นอยู่กับแต่ละการประชุม

ทั้งนี้ ความคิดเห็นล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ ECB บ่งชี้ถึงแนวโน้มที่ระมัดระวัง โดยลาการ์ด และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ฟิลิป เลนแนะนำว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม และแม้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้นในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 20 ประเทศ แต่คาดว่าการเติบโตจะยังคงอยู่ในระดับปานกลางจนถึงปี 2025

ทางด้านการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุดของ ECB ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่เหนือ 2% ในปีหน้า เนื่องจากการเติบโตของค่าจ้างที่สูง ขณะที่ธนาคารได้แก้ไขการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเป็น 2.2% ในปีหน้า และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงต่ำกว่าเป้าหมายที่ 1.9% ภายในปี 2026 ซึ่งส่งสัญญาณถึงเส้นทางที่ท้าทายข้างหน้าในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ

ทางด้านหลักทรัพย์แบงก์ออฟอเมริกา (BofA Securitiesรายงานความเชื่อมั่นเชิงลบต่อเงินยูโรที่เพิ่มมากขึ้นภายหลังการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปและความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น โดยการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปซึ่งได้ข้อสรุปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบการเปลี่ยนแปลงไปทางฝ่ายขวาอย่างมีนัยสำคัญในหลายประเทศ โดยเฉพาะในฝรั่งเศส

โดยข้อกังวลอันดับต้นๆ สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งของสหภาพยุโรป ได้แก่ เศรษฐกิจ การอพยพย้ายถิ่นฐาน และความขัดแย้งระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนยังคงเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 8 ในเดือนมิถุนายน แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะยังคงมีความท้าทาย

ทางด้านเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยูโรโซน เตือนถึงการเติบโตของค่าจ้างอย่างยั่งยืน ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคบริการ และส่งผลให้ความพยายามของ ECB ในการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วมีความซับซ้อน

ขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงเป็นเดือนที่สี่ติดต่อกันในเดือนเมษายน ท่ามกลางการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สอง

ทั้งนี้ การต่อสู้ทางเศรษฐกิจของเยอรมนี ซึ่งรวมไปถึงต้นทุนพลังงานที่สูง และคำสั่งซื้อผลผลิตทั่วโลกที่อ่อนแอ ส่งสัญญาณว่าเยอรมนีเป็นประเทศที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจยูโรโซนหลักๆ ในปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี โรเบิร์ต ฮาเบค ยังคงมุมมองในแง่ดีและคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตสูงถึง 1.5% ในปี 2025

นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB อีกสองครั้งในปีนี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายนและธันวาคม โดยตลาดคาดการณ์การปรับลดอัตราลงอีก 35 จุดภายในสิ้นปี ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 5 ครั้ง

ทางด้านเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์รายงานอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อจังหวะเวลาของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขณะที่ในวันพุธ ค่าเงินดอลลาร์ยังคงทรงตัวเนื่องจากตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญและการอัปเดตการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยจากเฟด

อีกด้าน ในเดือนพฤษภาคม ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ และแผนการจ้างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดของปี ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมาถึง ที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสี่ปี ส่งผลให้นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ ซึ่งปัจจุบันพบความน่าจะเป็นประมาณ 50-50 สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน

ทั้งนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการคาดการณ์เศรษฐกิจจากเฟด ซึ่งรวมถึง GDP อัตราการว่างงาน PCE พื้นฐาน และอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2026 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพฤษภาคมในวันพุธ ก่อนมติการประชุมนโยบายจากเฟด โดยจากข้อมูลของ Fed Interest Rate Monitor นักลงทุนส่วนใหญ่ (95.1%) คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD EUR/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.0765, 1.0778, 1.0800

แนวรับสำคัญ :  1.0723, 1.0710, 1.0688

1D Outlook   

วิเคราะห์ EUR/USD ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0693 - 1.0723 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0723 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0769 และ SL ที่ประมาณ 1.0678 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0765 - 1.0795 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0825 และ SL ที่ประมาณ 1.0708 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0765 - 1.0795 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0765 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0713 และ SL ที่ประมาณ 1.0810 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0693 - 1.0723 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0658 และ SL ที่ประมาณ 1.0780 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 12, 2024 10:26AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.0658 1.0688 1.0713 1.0744 1.0769 1.08 1.0825
Fibonacci 1.0688 1.071 1.0723 1.0744 1.0765 1.0778 1.08
Camarilla 1.0724 1.0729 1.0734 1.0744 1.0744 1.0749 1.0754
Woodie's 1.0656 1.0687 1.0711 1.0743 1.0767 1.0799 1.0823
DeMark's - - 1.0701 1.0738 1.0757 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES