เศรษฐกิจอินเดียมีการเติบโตที่ชะลอตัวลง
เงินรูปีของอินเดียอ่อนค่าลงเกิน 83.55 รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งในสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและกดดันสกุลเงินหลักอื่นๆ ทั้งนี้ การชะลอการแทรกแซงสกุลเงินของ RBI ช่วยสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของสินค้าอินเดียในด้านการส่งออก ในขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงพิจารณาผลกระทบต่อตลาดทุนและอัตราแลกเปลี่ยนต่างๆ ผ่านการเลือกตั้งของอินเดียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังอาจคาดการณ์ข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศแบบคร่าวๆ ได้
Manufacturing PMI ในอินเดียอยู่ที่ 57.5 ในเดือนพฤษภาคม ลดลงจาก 58.8 ในเดือนก่อนหน้า โดยตัวเลข PMI ที่ลดลงส่งสัญญาณว่าภาคการผลิตของประเทศมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลง แต่กิจกรรมของภาคการผลิตโดยรวมยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคำสั่งซื้อและผลผลิตใหม่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทต่างๆ ระบุว่าชั่วโมงการทำงานที่ลดลงเนื่องจากคลื่นความร้อนที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิตในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันที่คำสั่งซื้อสำหรับการส่งออกเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี โดยมีความต้องการตามภูมิศาสตร์ในวงกว้าง
Services PMI ลดลงมาอยู่ที่ 60.4 ในเดือนพฤษภาคม จาก 61.4 นับเป็นการขยายกิจกรรมการบริการเดือนที่ 34 ติดต่อกันแม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ช้าลงก็ตาม คำสั่งซื้อใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจและความต้องการด้านบริการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดภาคการบริการจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นก็ตาม จากความต้องการที่แข็งแกร่งจากเอเชีย, แอฟริกา, ยุโรป, ตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ แรงกดดันด้านต้นทุนยังคงมีความรุนแรงมากขึ้น โดยมีราคาวัสดุและแรงงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารกลางอินเดียได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 6.5% ในการประชุมเดือนมิถุนายน ซึ่งตรงตามที่คาดไว้ของนักลงทุน แม้ว่าแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัว โดยยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2-6% แต่เศรษฐกิจภายในประเทศที่สามารถเติบโตได้ดี ทำให้ RBI ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมครั้งล่าสุด Shaktikanta Das ผู้ว่าการ RBI กล่าวว่าความไม่แน่นอนด้านสภาพอากาศและเศรษฐกิจโลกจะยังคงส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศ นอกจากนี้ ค่าเงินรูปีที่อ่อนค่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อด้านอาหารยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ RBI ได้ปรับการคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2025 เป็น 7.2% โดยการเติบโตนี้จะได้รับแรงหนุนในไตรมาส 2 และ 3 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.2% และ 7.3% ตามลำดับ ในขณะที่คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 4.5% เนื่องจากสภาพอากาศที่แย่นี้จะยังคงส่งผลกระทบต่อไปในระยะกลาง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 83.536, 83.618, 83.658
แนวรับสำคัญ: 83.414, 83.374, 83.292
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 83.374 - 83.414 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 83.414 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.618 และ SL ที่ประมาณ 83.292 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 83.536 - 83.618 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.658 และ SL ที่ประมาณ 83.374 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 83.536 - 83.618 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 83.536 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.374 และ SL ที่ประมาณ 83.658 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 83.374 - 83.414 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 83.292 และ SL ที่ประมาณ 83.618 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
จุดกลับตัว 12 มิถุนายน 2567 20:35 น. GMT+7
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
Classic | 83.292 | 83.374 | 83.414 | 83.496 | 83.536 | 83.618 | 83.658 |
Fibonacci | 83.374 | 83.421 | 83.449 | 83.496 | 83.543 | 83.571 | 83.618 |
Camarilla | 83.422 | 83.433 | 83.445 | 83.496 | 83.467 | 83.478 | 83.489 |
Woodie's | 83.272 | 83.364 | 83.394 | 83.486 | 83.516 | 83.608 | 83.638 |
DeMark's | - | - | 83.395 | 83.486 | 83.517 | - | - |