ตลาดข้าวสาลีทั่วโลกเผชิญความผันผวนท่ามกลางผลกระทบจากสภาพอากาศและการคาดการณ์การส่งออกที่เปลี่ยนแปลง

ตลาดข้าวสาลีลดลงเนื่องจากการขายทำกำไรและการขายทางเทคนิค สำหรับปี 2024/25 คาดว่าข้าวสาลีของสหรัฐฯ จะพบอุปทานมากขึ้น การใช้ภายในประเทศที่คงที่ การส่งออกที่เพิ่มขึ้น และสต็อกที่ลดลง ประมาณการผลผลิตข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1% จากเดือนพฤษภาคมและ 4% จากปี 2023 เนื่องจากผลผลิตที่ดีขึ้นและการละทิ้งการเพาะปลูกที่ลดลง ช่วยชดเชยสต็อกคงคลังที่ลดลง 8 ล้านบุชเชล จากความคาดหวังของความต้องการส่งออกที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากการสูญเสียพืชผลในรัสเซียและยูเครน

ทางด้าน USDA ปรับประมาณการการส่งออก โดยปรับเพิ่มสำหรับอาร์เจนตินา แคนาดา สหภาพยุโรป และรัสเซีย ขณะเดียวกันก็ปรับลดประมาณการการส่งออกสำหรับออสเตรเลียและยูเครน ขณะที่ราคาฟาร์มเฉลี่ยตามฤดูกาลเพิ่มขึ้น 0.50 ดอลลาร์ต่อบุชเชลเป็น 6.50 ดอลลาร์ เนื่องจากราคาที่คาดการณ์ไว้สูงขึ้นและอุปทานทั่วโลกที่ตึงตัว

ทางด้านอุปทานข้าวสาลี การบริโภค การค้า และสต็อกข้าวสาลีทั่วโลกในปี 2024/25 คาดว่าจะลดลงทั้งหมด อุปทานคาดว่าจะลดลงเนื่องจากผลผลิตที่ลดลงอย่างมากในรัสเซีย ยูเครน และสหภาพยุโรป ซึ่งชดเชยบางส่วนด้วยสต็อกเริ่มต้นทั่วโลกที่สูง ขณะที่ผลผลิตของรัสเซียและยูเครนลดลงเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้รัฐบาลกลางมอสโกต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ท่ามกลางการบริโภคทั่วโลกที่ลดลง ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการใช้อาหารสัตว์ที่ลดลง และการค้าทั่วโลกคาดว่าจะลดลงเนื่องจากการส่งออกที่ลดลงจากรัสเซียและยูเครน ซึ่งถูกชดเชยบางส่วนด้วยการส่งออกที่เพิ่มขึ้นจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา ขณะที่สต็อกคงคลังทั่วโลกลดลง มีสาเหตุหลักมาจากสต็อกของสหภาพยุโรปที่ลดลง

ทั้งนี้ รัสเซียซึ่งเป็นผู้นำส่งออกข้าวสาลีโลก คาดว่าจะเผชิญยอดผลผลิตและการส่งออกในปี 2024-25 ที่ลดลงเล็กน้อย และได้ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยอาจพบผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียปริมาณน้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากน้ำค้างแข็ง ความแห้งแล้ง และความชื้นที่มากเกินไป ขณะที่ข้าวสาลีฤดูหนาวในพื้นที่แห้งแล้งทางตอนใต้และการปลูกข้าวสาลีฤดูใบไม้ผลิในไซบีเรียล่าช้าจากผลกระทบจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย หลังจากที่ผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รัสเซียสามารถครองตลาดส่งออก และเข้าถึงภูมิภาคต่างๆ เช่น เม็กซิโก อินโดนีเซีย และเวียดนาม รวมถึงส่งผลให้ราคาข้าวสาลีทั่วโลกตกต่ำลง

ในด้านอุปสงค์ มีการคาดการณ์ว่าอินเดียอาจลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและสต็อกของรัฐบาลที่ไม่เพียงพอ โดยอาจส่งผลให้ผู้นำเข้าเอกชนสามารถนำเข้าได้ 2-5 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าจากรัสเซีย และอาจส่งผลกระทบต่อตลาดโลก

ทางด้านตุรกี ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ ได้ประกาศห้ามนำเข้าเมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาด และส่งผลกระทบต่อรัสเซีย ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของตุรกี รวมถึงส่งผลให้สัญญาซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้าในชิคาโกร่วงลง 7.5% ถือเป็นการขาดทุนรายสัปดาห์ที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023

ทั้งนี้ สัญญาซื้อขายข้าวสาลีล่วงหน้าของสหรัฐฯ ร่วงลงในวันพุธเช่นกัน เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์การส่งออกทั่วโลกและสต็อกคงคลังของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น กดดันแรงสนับสนุนอันเนื่องมาจากผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียที่หดตัวลง โดยนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าแม้การคาดการณ์พืชผลของรัสเซียจะลดลง แต่สต็อกเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกได้ทำให้ราคาข้าวสาลีตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในความต้องการที่เพิ่มขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้ราคาข้าวสาลีลดลงมากกว่านี้

ทางด้านราคาข้าวสาลีในสหราชอาณาจักรอาจสูงขึ้นเนื่องจากฝนตกหนักในฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของยุโรป และนำไปสู่การเก็บเกี่ยวที่เลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ ขณะที่หน่วยข่าวกรองพลังงานและสภาพภูมิอากาศของสหราชอาณาจักร (ECIU) เตือนว่าการส่งออกของฝรั่งเศสที่ลดลงอาจส่งผลกระทบต่อราคาของสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผลผลิตข้าวสาลีของสหราชอาณาจักรเองได้ลดลงเช่นกันเนื่องจากฝนตกหนักก่อนหน้านี้

ราคาข้าวสาลีเมื่อเร็วๆ นี้ทะลุระดับ 629.20 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาณเชิงลบจากตัวบ่งชี้ Stochastic และแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจาก EMA50 บ่งชี้ว่าแนวโน้มขาลงอาจกลับมาอีกครั้ง โดยตั้งเป้าหมายอยู่ที่ 605.80 ดอลลาร์ ขณะที่การทะลุระดับ 652.60 ดอลลาร์อาจนำไปสู่แนวโน้มขาขึ้น ช่วงการซื้อขายที่คาดหวังในช่วงนี้จึ่งอยู่ระหว่างแนวรับ 625.00 ดอลลาร์ และแนวต้าน 650.00 ดอลลาร์

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Wheat Futures - Jul 24 (ZWN4)

แนวต้านสำคัญ : 623.98, 627.90, 634.25

แนวรับสำคัญ : 611.28, 607.36, 601.01              

1D Outlook   

ที่มา: TradingView                        

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 591.28 - 611.28 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 611.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 624.38 และ SL ที่ประมาณ 581.28 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 623.98 - 643.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 660.00 และ SL ที่ประมาณ 601.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 623.98 - 643.98 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 623.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 607.76 และ SL ที่ประมาณ 653.98 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 591.28 - 611.28 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 575.00 และ SL ที่ประมาณ 634.00 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 13, 2024 10:19AM GMT+7