บทวิเคราะห์ USD/CAD วันที่ 14 มิถุนายน 2567

Create at 6 months ago (Jun 14, 2024 10:38)

BoC ทบทวนนโยบายก่อนการแพร่ระบาด จากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ

สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศแคนาดา (BoC) ได้กลายเป็นธนาคารกลางในกลุ่ม G7 แห่งแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยปรับอัตราลดลง 25 จุดเหลือ 4.75% บ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่การผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดเพิ่มเติมอีกประมาณ 150 จุดในตลาดตราสารหนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ BoC ยังได้พิจารณาที่จะนำนโยบายในช่วงการแพร่ระบาดมาใช้ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ที่จะมีเกณฑ์ที่เข้มงวดมากขึ้นเป็นครั้งแรก โดยทิฟ แม็กเล็ม ผู้ว่าการ BoC กล่าวว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะช้ากว่าการปรับขึ้นครั้งก่อนๆ โดยอัตราดอกเบี้ยคาดว่าจะสูงกว่าระดับก่อนการเกิดโรคระบาด ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัวในอัตราต่อปีที่ 1.7% ในไตรมาสแรก ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลายครั้ง ท่ามกลางการตั้งข้อสังเกตของแม็กเล็มถึงเศรษฐกิจที่ผลิตมากกว่าความต้องการในปัจจุบัน ส่งผลให้ยังเหลือพื้นที่สำหรับการเติบโตแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเริ่มเย็นตัวลง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการแม็กเล็มยังคงเน้นย้ำว่า นโยบายทางการเงินของ BoC ในแง่ของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจสามารถแตกต่างจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเพียงระดับหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน แคนาดาพบการขาดดุลการค้าน้อยกว่าที่คาด โดยพบการส่งออก โดยเฉพาะพลังงานและทองคำ เติบโตเร็วกว่าการนำเข้า ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัวต่อได้ในเดือนเมษายน หลังจากที่หยุดชะงักในเดือนมีนาคม โดยคาดว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากการขุดเหมืองแร่และการขุดน้ำมันและก๊าซ

ทางด้านตลาดงานของแคนาดาพบสัญญาณที่หลากหลาย โดยอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเป็น 6.2% ในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่การเติบโตของค่าจ้างเร่งตัวขึ้นเป็น 5.2% สร้างความซับซ้อนให้กับการตัดสินใจของ BoC เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการเติบโตของค่าจ้างที่สูงอาจเป็นอุปสรรคต่อการควบคุมเงินเฟ้อ และส่งผลต่อความคาดหวังของตลาดสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมลดลงเล็กน้อยหลังจากการรายงานข้อมูลดังกล่าว โดย BoC มีกำหนดรายงานตัวเลขในภาคแรงงานอีกครั้งหนึ่ง ก่อนการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจของแคนาดายังคงมีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อต้นทุนการกู้ยืม โดยพบอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ของครัวเรือนที่สูง รวมถึงมีระยะเวลาในการจำนองที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารในสหรัฐฯ ขณะที่ธนาคารรายใหญ่ของแคนาดาได้เพิ่มสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ที่มากกว่าการคาดการณ์รายได้ที่คาดหวัง

ทางด้านหุ้นอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคของแคนาดาคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ในขณะที่ความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางยอดขายบ้านในพื้นที่ Greater Toronto ที่ลดลง โดยผู้ซื้อยังคงรอต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงมากขึ้น

อีกด้าน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25%-5.50% ซึ่งเป็นระดับที่คงไว้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ของเฟดเลื่อนจังหวะการเริ่มต้นการลดอัตราดอกเบี้ยออกไป ซึ่งอาจถึงเดือนธันวาคม โดยคาดว่าจะมีการลดลงเพียง 0.25 จุดเท่านั้นสำหรับปีนี้ อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนยังคงคาดหวังว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งที่เริ่มในเดือนกันยายน

โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ตั้งข้อสังเกตว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน เช่น การเติบโตและการว่างงาน ได้เป็นตัวกำหนดในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมจนกว่าจะมีสัญญาณที่ชัดเจนยิ่งขึ้น อย่างอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง หรือการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยพาวเวลล์เน้นย้ำว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจ และชี้แจงว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้ ขณะที่เฟดตั้งเป้าหมายที่จะลดอัตราเงินเฟ้อลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปไปสู่เป้าหมาย 2% ท่ามกลางดัชนีราคา PCE ที่ทรงตัว

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแม้ว่าข้อมูลอัตราเงินเฟ้อราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคมจะอ่อนตัวลง 0.2% เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และหนุนแนวโน้มของแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อ่อนตัว สอดคล้องกับข้อมูล CPI ที่ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาคม

ทางด้านข้อมูลอื่นๆ แสดงให้เห็นถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 เดือน บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานอาจกำลังเย็นลง และคงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังให้ความเห็นว่าตลาดงานกำลังเข้าสู่ความเสถียรภาพมากขึ้น คล้ายกับช่วงก่อนการเกิดโรคระบาด ที่พบการเติบโตของค่าจ้างอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งเธอเชื่อว่าไม่เป็นภัยคุกคามต่อภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะยังคงได้รับแรงหนุนอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายของเฟดที่มีความผ่อนคลายน้อยกว่าเมื่อเทียบกับธนาคารกลางประเทศอื่นๆ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.3760, 1.3771, 1.3790

แนวรับสำคัญ : 1.3722, 1.3711, 1.3692                  

1D Outlook  

วิเคราะห์ USD/CAD ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3672 - 1.3722 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3722 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3767 และ SL ที่ประมาณ 1.3647 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3760 - 1.3810 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3840 และ SL ที่ประมาณ 1.3697 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3760 - 1.3810 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.3760 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3718 และ SL ที่ประมาณ 1.3835 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3672 - 1.3722 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3651 และ SL ที่ประมาณ 1.3785 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 14, 2024 10:23AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.3669 1.3692 1.3718 1.3741 1.3767 1.379 1.3816
Fibonacci 1.3692 1.3711 1.3722 1.3741 1.376 1.3771 1.379
Camarilla 1.3731 1.3735 1.374 1.3741 1.3748 1.3753 1.3757
Woodie's 1.3671 1.3693 1.372 1.3742 1.3769 1.3791 1.3818
DeMark's - - 1.373 1.3747 1.3778 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES