บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 18 มิถุนายน 2567

Create at 6 months ago (Jun 18, 2024 10:12)

หุ้นเทคโนโลยีพุ่ง ผลักดัน Nasdaq และ S&P 500 ขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกของ AI

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสูงขึ้นในวันจันทร์ โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค การบริการผู้บริโภค และเทคโนโลยี โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางการดีดตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ที่ได้แรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับ AI ก่อนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บริษัทเทคโนโลยีหลักๆ เช่น Amazon, Microsoft และ Apple ได้นำการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดล่าสุด โดยหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้น 2% จากฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ ในการกระตุ้นความต้องการ iPhone ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Apple สูงถึง 3.33 ล้านล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Microsoft สูงถึง 3.35 ล้านล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากแผนการนำ AI เข้าร่วมกับแอปพลิเคชันทางธุรกิจต่างๆ และใช้ประโยชน์จากฐานผู้ใช้ระดับองค์กร ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ถึงการแข่งขันระหว่าง Microsoft, Apple และ Nvidia ที่อาจเกิดขึ้นเพื่อบรรลุมูลค่าตลาดที่ 4 ล้านล้านดอลลาร์ จากความร้อนแรงของ AI

ทางด้านหุ้นของ Broadcom และกลุ่ม Taiwan Semiconductor เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ดัชนี Philadelphia SE Semiconductor แตะระดับสูงสุดตลอดกาล ท่ามกลางหุ้น Nvidia ที่ร่วงลงเล็กน้อย โดยธุรกิจกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและเทคโนโลยียังคงนำการพุ่งสูงขึ้นของดัชนี S&P 500 ขณะที่ธุรกิจในกลุ่มสาธารณูปโภคและอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่าชิปที่เกี่ยวข้องกับ AI ของ Nvidia นั้นมีมูลค่าสูง และอาจก่อให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ได้ โดยแม้ว่าอาจพบการหยุดชะงักในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์ยังคงเชื่อว่าการลงทุนระยะยาวใน AI จะช่วยรักษาการฟื้นตัวของตลาดในวงกว้างในปี 2025

อีกด้าน หุ้นของ Autodesk เพิ่มขึ้น 6% หลังจากข่าวเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น 500 ล้านดอลลาร์ของ Starboard Value ซึ่งได้ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริษัท ขณะเดียวกัน หุ้นของ GameStop ลดลง 12% เนื่องจากมาตรการลดต้นทุนและการขาดทิศทางเชิงกลยุทธ์ ขณะที่ AMC Networks และ Virgin Galactic Holdings พบว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการปรับโครงสร้างทางการเงินและการรวมหุ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ได้ทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bank of America Securities (BofA) คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ AI จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ในปี 2024

โดยคาดว่า Alphabet, Meta และ Amazon จะเพิ่มรายจ่ายด้านทุนประจำปีในเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์ 43% เป็น 91 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าการใช้จ่ายโดยรวมเพิ่มขึ้น 35% เป็น 145 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Meta คาดว่าจะพบการใช้จ่ายสูงสุดเมื่อเทียบกับรายได้ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้าน AI โดยนักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ว่าการเติบโตของการจ้างพนักงานจะชะลอตัวลงเหลือ 3% ต่อปี ลดลงจาก 26% ระหว่างปี 2016 ถึง 2022 เพื่อรักษาสมดุลของค่าใช้จ่าย

โดยแม้ว่าการใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้น แต่นักวิเคราะห์ยังคงมีทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ที่มีต่อภาคธุรกิจเทคโนโลยี โดยคาดการณ์ถึงอัตรากำไรของกระแสเงินสดอิสระ (FCF) ที่ทรงตัวสำหรับ Alphabet, Meta และ Amazon ในปี 2024 และคาดว่าจะขยายตัวมากขึ้นในปี 2025

ทางด้าน Goldman Sachs เพิ่มเป้าหมายสิ้นปีสำหรับดัชนี S&P 500 มาอยู่ที่ 5,600 เพิ่มขึ้นจาก 5,200 โดยอ้างถึงการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งจากหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่และความกระตือรือร้นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับ AI ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีหลักห้าแห่ง ได้แก่ Microsoft, Nvidia, Alphabet, Amazon และ Meta ได้มีส่วน 60% ในการผลักดันการเพิ่มขึ้น 15% ของ S&P 500 ในปีนี้ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นรวมกันถึง 45% และคิดเป็น 25% ของมูลค่าตลาดของดัชนี

โดยบริษัทดังกล่าวพบการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) 84% ในไตรมาสที่ 1 เทียบกับ 5% สำหรับหุ้นอื่นๆ ใน S&P 500 โดยเฉลี่ย ซึ่งส่งผลให้การคาดการณ์กำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัททั้งห้าเพิ่มขึ้น 38% ในปี 2024 โดยธนาคารคาดการณ์ว่าอัตราส่วน P/E ของ S&P 500 จะอยู่ที่ 20.4 เท่าภายในสิ้นปี ซึ่งต่ำกว่าปัจจุบันที่ 21.1 เท่าเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งและอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงที่คงที่

ทั้งนี้ ในรายงานถึงนักลงทุนเมื่อวันจันทร์ นักวิเคราะห์จาก BofA ระบุว่า "สถานการณ์ในกรณีที่ดีที่สุด" สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้เริ่มขึ้นแล้ว จากการเติบโตของราคาผู้บริโภคที่อ่อนตัวกว่าที่คาด และรายงานล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความต้องการแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงอธิบายว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่มีกิจกรรมที่มีเสถียรภาพพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ส่งผลให้จุดสนใจของตลาดได้เปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งที่อาจช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในวงกว้างได้ โดยนักวิเคราะห์เน้นย้ำว่าข่าวเชิงบวกจะยังคงเป็นประโยชน์ต่อตลาด ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ภายใต้การควบคุม

อีกด้านเมื่อวันอังคาร ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอีกเมื่อเทียบกับเงินยูโรและสเตอร์ลิง แม้ว่าผลตอบแทนของกระทรวงการคลังจะเพิ่มขึ้นในชั่วข้ามคืน โดยนักลงทุนตั้งตารอข้อมูลยอดค้าปลีกที่สำคัญและความคิดเห็นของธนาคารกลางสหรัฐฯ สำหรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนพฤษภาคมในวันอังคาร ตามด้วยรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม โครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจาก S&P

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5474.4, 5475.7, 5477.7

แนวรับสำคัญ : 5470.4, 5469.1, 5467.1               

1H Outlook

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView          

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5465.4 - 5470.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5470.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5474.5 และ SL ที่ประมาณ 5463.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5474.4 - 5479.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5485.0 และ SL ที่ประมาณ 5468.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5474.4 - 5479.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5474.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5469.2 และ SL ที่ประมาณ 5482.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5465.4 - 5470.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5460.0 และ SL ที่ประมาณ 5477.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 18, 2024 09:30AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5463.9 5467.1 5469.2 5472.4 5474.5 5477.7 5479.8
Fibonacci 5467.1 5469.1 5470.4 5472.4 5474.4 5475.7 5477.7
Camarilla 5469.7 5470.2 5470.7 5472.4 5471.7 5472.2 5472.7
Woodie's 5463.3 5466.8 5468.6 5472.1 5473.9 5477.4 5479.2
DeMark's - - 5468.1 5471.9 5473.4 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES