ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ : ข้าวโพด วันที่ 20 มิถุนายน 2567

Create at 2 months ago (Jun 20, 2024 10:55)

ตลาดข้าวโพดทั่วโลกเผชิญแนวโน้มขาลง ท่ามกลางสต็อกคงคลังที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ที่ทรงตัว

ราคาข้าวโพดส่วนใหญ่สูงขึ้นเนื่องจากความท้าทายด้านสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในพื้นที่อื่นๆ ของคอร์นเบลท์ ขณะที่ USDA ประเมินคุณภาพการปลูกข้าวโพดที่ 71% อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีเยี่ยม ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว

แนวโน้มข้าวโพดสหรัฐฯ ในฤดูกาล 2024/25 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาเฉลี่ยยังคงอยู่ที่ 4.40 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ผลผลิตเมล็ดหยาบทั่วโลกคาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านตัน อยู่ที่ 1.511 พันล้านตัน โดยผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางผลผลิตที่สูงขึ้นในยูเครนและแซมเบีย ที่ชดเชยผลผลผิตที่ลดลงในรัสเซีย ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวโพดของยูเครนเพิ่มขึ้น และลดลงในรัสเซีย

ทางด้านการส่งออกข้าวโพดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสำหรับยูเครนและแทนซาเนีย แต่คาดว่าจะลดลงสำหรับรัสเซีย ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นในมาลาวี แซมเบีย และโมซัมบิก หลังจากที่เมื่อปี 2023/24 การส่งออกข้าวโพดเพิ่มขึ้นในแอฟริกาใต้ รัสเซีย สหภาพยุโรป และอุรุกวัย ขณะที่สต็อกข้าวโพดทั่วโลกลดลง 1.5 ล้านตันจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 310.8 ล้านตัน จากปปริมาณสต็อกที่ลดลงในแอฟริกาใต้ รัสเซีย และแทนซาเนีย

รายงานของ USDA ในวันที่ 28 มิถุนายน คาดว่าจะอัปเดตสต็อกข้าวโพดในฟาร์ม ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ 5 พันล้านบุชเชล ณ วันที่ 1 มีนาคม สูงเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางผู้ซื้อที่เสนอราคาพรีเมี่ยมเล็กน้อยเพื่อเกลี้ยกล่อมการขายเมล็ดพืชจากเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงยืนกรานเลือกรอราคาที่ดีกว่า โดยปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในสหรัฐฯ ต้องตัดสินใจระหว่างการขายตอนนี้หรือเสี่ยงราคาที่ลดลง หากเมล็ดพืชล็อตใหม่เข้าสู่ตลาดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ท่ามกลางความต้องการข้าวโพดที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสำหรับการใช้ในเอธานอลและอาหารสัตว์ ขณะที่ USDA คาดการณ์ว่าสต็อกข้าวโพดในสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีภายในเดือนกันยายน 2025 ซึ่งความไม่แน่นอนถึงจังหวะและเวลาที่เกษตรกรจะขายอาจส่งผลให้ราคาธัญพืชมีความผันผวน ในขณะเดียวกัน ผู้ซื้อเชิงพาณิชย์คาดการณ์ถึงราคาที่ต่ำกว่าเนื่องจากอุปสงค์ธัญพืชที่เกินดุล

อีกด้าน จากข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรป ตั้งแต่ต้นปีการตลาด 2023/24 จนถึงวันที่ 11 มิถุนายน ประเทศในสหภาพยุโรปส่งออกธัญพืช 42.6 ล้านตัน ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการนำเข้าลดลง 19% เหลือ 31.5 ล้านตัน จากการนำเข้าข้าวโพดที่ลดลงอย่างมาก

โดยการส่งออกข้าวโพดของสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 12% เป็น 3.62 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม การนำเข้าข้าวโพดลดลง 31% เหลือ 17.5 ล้านตัน ท่ามกลางประมาณการเชิงบวกที่มากขึ้นของ USDA สำหรับการนำเข้าข้าวโพดที่อยู่ที่ 21 ล้านตัน ลดลงจาก 23.2 ล้านตันในฤดูกาลที่แล้ว

ทางด้านยูเครนยังคงเป็นซัพพลายเออร์หลัก โดยคิดเป็น 68% ของการนำเข้าข้าวโพดของสหภาพยุโรป (12 ล้านตัน) และรัสเซียที่ส่งออกข้าวโพดจำนวน 312.1 พันตัน โดยการบริโภคข้าวสาลีเพื่อเป็นอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาล 2023/24 ส่งผลให้การนำเข้าข้าวโพดลดลง อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลใหม่ ราคาข้าวสาลีที่สูงขึ้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคข้าวโพดเพื่อเป็นอาหารสัตว์ ควบคู่ไปกับการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นของผลผลิตข้าวโพดของสหภาพยุโรป

อีกด้าน อาร์เจนตินาจะเริ่มส่งออกข้าวโพดไปยังจีนในเดือนกรกฎาคม 2024 หลังจากการยืนยันจากทางการจีน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ข้าวโพดรายใหญ่อันดับสามของโลก ขยายการเข้าถึงทั่วโลกและเจาะตลาดจีน ซึ่งนำเข้าข้าวโพดประมาณ 20 ล้านตันต่อปี โดยข้อตกลงนี้ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วแต่ล่าช้าเนื่องจากปัญหาด้านกฎระเบียบ ปัจจุบันได้เปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้กับอาร์เจนตินา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มมีการเก็บเกี่ยวข้าวโพดในปี 2023/24 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณ 47.5 ล้านตัน ซึ่งการพัฒนานี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมภาคเกษตรกรรมของอาร์เจนตินา แต่ยังช่วยส่งเสริมการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีกับจีน

ขณะเดียวกัน USDA คาดว่าความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของซิมบับเวจะเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 ตันในปี 2024-2025 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่จำกัดจนถึงฤดูฝนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดจะลดลง 60% เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงที่เกิดจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ ส่งผลให้ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน ดัมบุดโซประกาศ "ภาวะภัยพิบัติ" โดยผลผลิตข้าวโพดในปี 2024-2025 คาดว่าจะอยู่ที่ 635,000 ตัน ลดลงจาก 1.5 ล้านในปี 2023-2024 ขณะที่การบริโภคภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 1.9 ล้านตัน ทำให้ต้องนำเข้ามากกว่า 1 ล้านตันเพื่อตอบสนองความต้องการ และเนื่องจากภัยแล้งในภูมิภาคส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตข้าวโพดอื่นๆ ซิมบับเวจึงวางแผนที่จะจัดหาข้าวโพดทั่วโลก โดยเฉพาะจากบราซิล อาร์เจนตินา รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยคณะกรรมการการตลาดธัญพืชซิมบับเวคาดว่าปริมาณสำรองของข้าวโพดจะลดลงเหลือ 150,000 ตัน ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 500,000 ตัน ท่ามกลางข้าวโพดที่เป็นวัตถุดิบหลักของประเทศซิมบับเว ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตโดยเกษตรกรรายย่อยที่ต้องอาศัยปริมาณน้ำฝน

ในอาเซอร์ไบจาน การนำเข้าข้าวโพดเพิ่มขึ้น 23% หรือเป็นมูลค่า 17.2% ในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2024 รวมเป็น 57,600 ตันมูลค่า 18.2 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน สัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้า CBOT มีการซื้อขายทรงตัว โดยได้รับอิทธิพลจากการพยากรณ์ทิศทางของสภาพอากาศแถบมิดเวสต์ โดยนักวิเคราะห์ในชิคาโกคาดว่าสินค้าโภคภัณฑ์กำลังเผชิญกับรูปแบบการซื้อขายในกรอบ

ในส่วนของข้าวโพด นักวิเคราะห์เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญเพื่อผลักดันราคาให้สูงกว่า 4.70 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในสัญญาเดือนกรกฎาคม และกำหนดแนวรับที่ประมาณ 4.35 ดอลลาร์ต่อบุชเชล โดยสัญญาเดือนธันวาคมคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4.50 ถึง 4.80 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ซึ่งอาจทดสอบแนวที่สูงขึ้นหากสภาพอากาศร้อนยังคงอยู่โดยไม่มีฝน

ทั้งนี้ แม้ว่าผลผลิตจะลดลงในประเทศสำคัญๆ เช่น สหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา แต่การใช้ข้าวโพดทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยแนวโน้มของตลาดบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในปี 2024 เนื่องจากการส่งออกทั่วโลกที่ลดลงและสต็อกคงคลังที่สูงขึ้น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018-19 บ่งบอกถึงสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทายสำหรับราคาข้าวโพด

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Corn Futures - Jul 24 (ZCN4)

แนวต้านสำคัญ : 447.58, 447.76, 448.04

แนวรับสำคัญ : 447.02, 446.84, 446.56         

1H Outlook

วิเคราะห์ราคาข้าวโพดที่มา: TradingView                                                                   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 446.50 - 447.02 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 447.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 447.72 และ SL ที่ประมาณ 446.25 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 447.58 - 448.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 450.00 และ SL ที่ประมาณ 446.75 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 447.58 - 448.08 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 447.58 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 446.98 และ SL ที่ประมาณ 448.33 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 446.50 - 447.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 444.50 และ SL ที่ประมาณ 447.83 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jun 20, 2024 10:28AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 446.24 446.56 446.98 447.3 447.72 448.04 448.46
Fibonacci 446.56 446.84 447.02 447.3 447.58 447.76 448.04
Camarilla 447.2 447.26 447.33 447.3 447.47 447.54 447.6
Woodie's 446.28 446.58 447.02 447.32 447.76 448.06 448.5
DeMark's - - 447.14 447.38 447.88 - -

ที่มา: LatinamericanpostInvesting

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES