ตลาดข้าวโพดทั่วโลกเผชิญแนวโน้มขาลง ท่ามกลางสต็อกคงคลังที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ที่ทรงตัว
ราคาข้าวโพดส่วนใหญ่สูงขึ้นเนื่องจากความท้าทายด้านสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งในพื้นที่อื่นๆ ของคอร์นเบลท์ ขณะที่ USDA ประเมินคุณภาพการปลูกข้าวโพดที่ 71% อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีเยี่ยม ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่แล้ว
แนวโน้มข้าวโพดสหรัฐฯ ในฤดูกาล 2024/25 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยราคาเฉลี่ยยังคงอยู่ที่ 4.40 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ผลผลิตเมล็ดหยาบทั่วโลกคาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านตัน อยู่ที่ 1.511 พันล้านตัน โดยผลผลิตข้าวโพดจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางผลผลิตที่สูงขึ้นในยูเครนและแซมเบีย ที่ชดเชยผลผลผิตที่ลดลงในรัสเซีย ขณะที่พื้นที่ปลูกข้าวโพดของยูเครนเพิ่มขึ้น และลดลงในรัสเซีย
ทางด้านการส่งออกข้าวโพดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นสำหรับยูเครนและแทนซาเนีย แต่คาดว่าจะลดลงสำหรับรัสเซีย ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นในมาลาวี แซมเบีย และโมซัมบิก หลังจากที่เมื่อปี 2023/24 การส่งออกข้าวโพดเพิ่มขึ้นในแอฟริกาใต้ รัสเซีย สหภาพยุโรป และอุรุกวัย ขณะที่สต็อกข้าวโพดทั่วโลกลดลง 1.5 ล้านตันจากเดือนก่อน มาอยู่ที่ 310.8 ล้านตัน จากปปริมาณสต็อกที่ลดลงในแอฟริกาใต้ รัสเซีย และแทนซาเนีย
รายงานของ USDA ในวันที่ 28 มิถุนายน คาดว่าจะอัปเดตสต็อกข้าวโพดในฟาร์ม ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ที่ 5 พันล้านบุชเชล ณ วันที่ 1 มีนาคม สูงเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางผู้ซื้อที่เสนอราคาพรีเมี่ยมเล็กน้อยเพื่อเกลี้ยกล่อมการขายเมล็ดพืชจากเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงยืนกรานเลือกรอราคาที่ดีกว่า โดยปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในสหรัฐฯ ต้องตัดสินใจระหว่างการขายตอนนี้หรือเสี่ยงราคาที่ลดลง หากเมล็ดพืชล็อตใหม่เข้าสู่ตลาดในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ท่ามกลางความต้องการข้าวโพดที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสำหรับการใช้ในเอธานอลและอาหารสัตว์ ขณะที่ USDA คาดการณ์ว่าสต็อกข้าวโพดในสหรัฐฯ จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีภายในเดือนกันยายน 2025 ซึ่งความไม่แน่นอนถึงจังหวะและเวลาที่เกษตรกรจะขายอาจส่งผลให้ราคาธัญพืชมีความผันผวน ในขณะเดียวกัน ผู้ซื้อเชิงพาณิชย์คาดการณ์ถึงราคาที่ต่ำกว่าเนื่องจากอุปสงค์ธัญพืชที่เกินดุล
อีกด้าน จากข้อมูลของคณะกรรมาธิการยุโรป ตั้งแต่ต้นปีการตลาด 2023/24 จนถึงวันที่ 11 มิถุนายน ประเทศในสหภาพยุโรปส่งออกธัญพืช 42.6 ล้านตัน ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยการนำเข้าลดลง 19% เหลือ 31.5 ล้านตัน จากการนำเข้าข้าวโพดที่ลดลงอย่างมาก
โดยการส่งออกข้าวโพดของสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้น 12% เป็น 3.62 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม การนำเข้าข้าวโพดลดลง 31% เหลือ 17.5 ล้านตัน ท่ามกลางประมาณการเชิงบวกที่มากขึ้นของ USDA สำหรับการนำเข้าข้าวโพดที่อยู่ที่ 21 ล้านตัน ลดลงจาก 23.2 ล้านตันในฤดูกาลที่แล้ว
ทางด้านยูเครนยังคงเป็นซัพพลายเออร์หลัก โดยคิดเป็น 68% ของการนำเข้าข้าวโพดของสหภาพยุโรป (12 ล้านตัน) และรัสเซียที่ส่งออกข้าวโพดจำนวน 312.1 พันตัน โดยการบริโภคข้าวสาลีเพื่อเป็นอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาล 2023/24 ส่งผลให้การนำเข้าข้าวโพดลดลง อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลใหม่ ราคาข้าวสาลีที่สูงขึ้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคข้าวโพดเพื่อเป็นอาหารสัตว์ ควบคู่ไปกับการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นของผลผลิตข้าวโพดของสหภาพยุโรป
อีกด้าน อาร์เจนตินาจะเริ่มส่งออกข้าวโพดไปยังจีนในเดือนกรกฎาคม 2024 หลังจากการยืนยันจากทางการจีน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าว ทำให้อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ข้าวโพดรายใหญ่อันดับสามของโลก ขยายการเข้าถึงทั่วโลกและเจาะตลาดจีน ซึ่งนำเข้าข้าวโพดประมาณ 20 ล้านตันต่อปี โดยข้อตกลงนี้ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วแต่ล่าช้าเนื่องจากปัญหาด้านกฎระเบียบ ปัจจุบันได้เปิดโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ให้กับอาร์เจนตินา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มมีการเก็บเกี่ยวข้าวโพดในปี 2023/24 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณ 47.5 ล้านตัน ซึ่งการพัฒนานี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมภาคเกษตรกรรมของอาร์เจนตินา แต่ยังช่วยส่งเสริมการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคีกับจีน
ขณะเดียวกัน USDA คาดว่าความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของซิมบับเวจะเพิ่มขึ้นเป็น 350,000 ตันในปี 2024-2025 เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกที่จำกัดจนถึงฤดูฝนหน้า อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวโพดจะลดลง 60% เนื่องจากภัยแล้งรุนแรงที่เกิดจากปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ ส่งผลให้ประธานาธิบดีเอ็มเมอร์สัน ดัมบุดโซประกาศ "ภาวะภัยพิบัติ" โดยผลผลิตข้าวโพดในปี 2024-2025 คาดว่าจะอยู่ที่ 635,000 ตัน ลดลงจาก 1.5 ล้านในปี 2023-2024 ขณะที่การบริโภคภายในประเทศคาดว่าจะอยู่ที่ 1.9 ล้านตัน ทำให้ต้องนำเข้ามากกว่า 1 ล้านตันเพื่อตอบสนองความต้องการ และเนื่องจากภัยแล้งในภูมิภาคส่งผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตข้าวโพดอื่นๆ ซิมบับเวจึงวางแผนที่จะจัดหาข้าวโพดทั่วโลก โดยเฉพาะจากบราซิล อาร์เจนตินา รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา โดยคณะกรรมการการตลาดธัญพืชซิมบับเวคาดว่าปริมาณสำรองของข้าวโพดจะลดลงเหลือ 150,000 ตัน ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ 500,000 ตัน ท่ามกลางข้าวโพดที่เป็นวัตถุดิบหลักของประเทศซิมบับเว ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตโดยเกษตรกรรายย่อยที่ต้องอาศัยปริมาณน้ำฝน
ในอาเซอร์ไบจาน การนำเข้าข้าวโพดเพิ่มขึ้น 23% หรือเป็นมูลค่า 17.2% ในช่วงห้าเดือนแรกของปี 2024 รวมเป็น 57,600 ตันมูลค่า 18.2 ล้านดอลลาร์
ปัจจุบัน สัญญาซื้อขายข้าวโพดล่วงหน้า CBOT มีการซื้อขายทรงตัว โดยได้รับอิทธิพลจากการพยากรณ์ทิศทางของสภาพอากาศแถบมิดเวสต์ โดยนักวิเคราะห์ในชิคาโกคาดว่าสินค้าโภคภัณฑ์กำลังเผชิญกับรูปแบบการซื้อขายในกรอบ
ในส่วนของข้าวโพด นักวิเคราะห์เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่สำคัญเพื่อผลักดันราคาให้สูงกว่า 4.70 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในสัญญาเดือนกรกฎาคม และกำหนดแนวรับที่ประมาณ 4.35 ดอลลาร์ต่อบุชเชล โดยสัญญาเดือนธันวาคมคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 4.50 ถึง 4.80 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ซึ่งอาจทดสอบแนวที่สูงขึ้นหากสภาพอากาศร้อนยังคงอยู่โดยไม่มีฝน
ทั้งนี้ แม้ว่าผลผลิตจะลดลงในประเทศสำคัญๆ เช่น สหรัฐอเมริกา บราซิล และอาร์เจนตินา แต่การใช้ข้าวโพดทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยแนวโน้มของตลาดบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงในปี 2024 เนื่องจากการส่งออกทั่วโลกที่ลดลงและสต็อกคงคลังที่สูงขึ้น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2018-19 บ่งบอกถึงสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่ท้าทายสำหรับราคาข้าวโพด
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Corn Futures - Jul 24 (ZCN4)
แนวต้านสำคัญ : 447.58, 447.76, 448.04
แนวรับสำคัญ : 447.02, 446.84, 446.56
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 446.50 - 447.02 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 447.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 447.72 และ SL ที่ประมาณ 446.25 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 447.58 - 448.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 450.00 และ SL ที่ประมาณ 446.75 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 447.58 - 448.08 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 447.58 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 446.98 และ SL ที่ประมาณ 448.33 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 446.50 - 447.02 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 444.50 และ SL ที่ประมาณ 447.83 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jun 20, 2024 10:28AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 446.24 | 446.56 | 446.98 | 447.3 | 447.72 | 448.04 | 448.46 |
Fibonacci | 446.56 | 446.84 | 447.02 | 447.3 | 447.58 | 447.76 | 448.04 |
Camarilla | 447.2 | 447.26 | 447.33 | 447.3 | 447.47 | 447.54 | 447.6 |
Woodie's | 446.28 | 446.58 | 447.02 | 447.32 | 447.76 | 448.06 | 448.5 |
DeMark's | - | - | 447.14 | 447.38 | 447.88 | - | - |
ที่มา: Latinamericanpost, Investing
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ